8 มี.ค.67 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สหประชาชาติหรือยูเอ็นเตือนว่า ระบบสาธารณสุขในเฮติใกล้พังทลาย เพราะขาดแคลนทั้งบุคลากร อุปกรณ์ ยา และเลือดในการรักษาผู้บาดเจ็บจากการถูกแก๊งอาชญากรยิง ขณะที่รัฐบาลเฮติจะขยายสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปอีก 1 เดือน
โครงการอาหารโลกของยูเอ็นแจ้งว่า ขบวนรถบรรทุกอุปกรณ์จำเป็น เวชภัณฑ์ และอาหารจำนวนสิบกว่าคันตกค้างอยู่ที่ท่าเรือของกรุงปอร์โตแปรงซ์ เนื่องจากทางโครงการได้ระงับการขนส่งสิ่งของทางทะเลเพราะมีความไม่ปลอดภัย
รัฐบาลเฮติประกาศในรัฐกิจจานุเบกษาว่า จะขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในจังหวัดเวสต์ (Ouest) ซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงปอร์โตแปรงซ์ไปจนถึงวันที่ 3 เมษายน และขยายการห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิวตอนกลางคืนไปจนถึงวันที่ 11 มีนาคม เพื่อฟื้นฟูความเป็นระเบียบเรียบร้อยและดำเนินมาตรการที่เหมาะสมในการกลับเข้าไปควบคุมสถานการณ์ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินห้ามการประท้วงในที่สาธารณะอย่างเด็ดขาด และอนุญาตให้กองกำลังความมั่นคงใช้ทุกวิธีที่ถูกกฎหมายในการบังคับใช้คำสั่งเคอร์ฟิวและจับกุมผู้ฝ่าฝืน
ก่อนหน้านี้รัฐบาลเฮติได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อวันที่ 3 มีนาคม เนื่องจากแก๊งอาชญากรก่อความรุนแรงมากขึ้น มีการปล่อยนักโทษหนีจากเรือนจำ ประชาชนจำนวนมากต้องกลายเป็นคนพลัดถิ่น เป็นช่วงที่นายกรัฐมนตรีอาเรียล อองรีของเฮติเดินทางไปเคนยาเพื่อขอให้เป็นแกนนำตั้งกองกำลังนานาชาติปราบปรามแก๊งอาชญากรในเฮติ ขณะนี้นายกรัฐมนตรีอองรียังคงอยู่ในเปอร์โตริโกมาตั้งแต่วันอังคาร และได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเมื่อวันพฤหัสบดี นายบลิงเคนพูดเรื่องเฮติจำเป็นต้องเร่งมีรัฐบาลที่เปิดกว้างและครอบคลุมมากขึ้น รอยเตอร์ตั้งข้อสังเกตว่า ดูเหมือนว่านายกรัฐมนตรีเฮติจะไม่สามารถหรือไม่เต็มใจกลับเมืองหลวงที่กำลังเต็มไปด้วยการยิงกันตามจุดขนส่งหลัก รวมถึงท่าอากาศยานนานาชาติ
.-011
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี