นิโคเซีย/กาซาซิตี/วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์) – สหรัฐฯ และอียูเร่งเพิ่มช่วยกาซาทางทะเลอีกทาง เพิ่มเติมจากทางอากาศ ป้องกันเกิดวิกฤตอดอยากในกาซา โดยอียูประกาศเปิดระเบียงทางทะเลช่วยกาซาตั้งแต่วานนี้ สหรัฐฯ คาดสร้างท่าเรือชั่วคราวชายฝั่งกาซา ใช้เวลาหลายสัปดาห์ ประธานาธิบดี  โจ ไบเดน ยอมรับ คงยากแล้ว ที่จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงภายในวันเริ่มรอมฎอน หลังการเจรจาหยุดยิงรอบล่าสุดจบลงโดยไม่ได้ข้อตกลง

ความคืบหน้าการเร่งเพิ่มความช่วยเหลือเข้าสู่กาซาทางทะเลอีกทาง เพิ่มเติมจากที่นานาประเทศกำลังเร่งส่งความช่วยเหลือทางอากาศ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะทุพภิกขภัยวิกฤติความอดอยากในกาซา ตามที่สหประชาชาติได้เตือนไว้ ล่าสุด เออร์ซูลา ฟอน แดร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป หรืออียู ประกาศเปิดระเบียงช่วยกาซาทางทะเล เป็นครั้งแรก เริ่มตั้งแต่เมื่อวานนี้ (9 มี.ค.) เส้นทางระเบียงทะเล คือเส้นทางใหม่ ในการส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเข้าสู่กาซาโดยทางทะเล ระหว่างไซปรัสกับฉนวนกาซา ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กัน เป็นความร่วมมือระหว่างอียู สหรัฐฯ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี ฟอน แดร์ เลเยน ซึ่งอยู่ระหว่างเยือนไซปรัส เปิดเผยว่า ได้ทดสอบการส่งอาหารออกจากไซปรัสไปยังกาซา โดยได้รับการสนับสนุนจากยูเออี ก่อนที่จะเปิดเส้นทางระเบียงทะเลนี้ต่อไป

ทั้งนี้ อียูประกาศเปิดระเบียงช่วยกาซาทางทะเล เกิดขึ้น 1 วันหลังจากสหรัฐฯ ประกาศสร้างท่าเรือชั่วคราวริมฝั่งกาซา เพื่อรับความช่วยเหลือทางทะเลเข้าสู่กาซาเป็นครั้งแรก โดย พลตรี แพท ไรเดอร์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงว่า กองทัพสหรัฐฯ จะก่อสร้างท่าเรือชั่วคราวชายฝั่งฉนวนกาซาติดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เพื่อเร่งส่งความช่วยเหลือเข้าสู่กาซา คาดว่าจะใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการวางแผนการก่อสร้างและลงมือก่อสร้าง กำลังหารือรายละเอียดกับประเทศพันธมิตรในตะวันออกกลาง ฝ่ายสหรัฐฯ จะใช้ทหาร ราว 1,000 นายในการก่อสร้าง แต่ย้ำว่า จะไม่มีการส่งทหารสหรัฐฯ เข้าในกาซา และสหรัฐฯ ตั้งเป้าจะส่งอาหารไปช่วยชาวกาซา 2 ล้านมื้อต่อวัน และยังคงทิ้งความช่วยเหลือทางอากาศลงสู่กาซาต่อเนื่อง

ทั้งนี้ การขยายความช่วยเหลือเข้าสู่กาซาไปทางอากาศและทางทะเล นอกเหนือจากทางบกนั้น เริ่มขึ้นหลังเกิดเหตุชาวปาเลสไตน์ที่เข้าแถวรอรับความช่วยเหลือถูกยิงเสียชีวิตจำนวนมาก และความช่วยเหลือทางบกโดยขบวนรถบรรทุกเข้าสู่กาซา ที่สามารถผ่านจุดผ่านแดนราฟาห์ได้เพียงจุดเดียวนั้น ประสบความล่าช้าเป็นอย่างมาก ทำให้กาซาขาดแคลนอาหาร และสหประชาชาติเตือนว่า กาซากำลังจะเข้าสู่ภาวะทุพภิกขภัย (famine) หรือ วิกฤตความอดอยาก

ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กล่าวล่าสุดว่า คงยากที่จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซาภายในวันเริ่มเดือนรอมฎอน ซึ่งจะมาถึงในวันนี้ (10 มี.ค.) และห่วงจะเกิดความรุนแรงในนครเยรูซาเล็มตะวันออก ถ้าหากไม่มีข้อตกลงหยุดยิงในช่วงเดือนรอมฎอน ขณะที่ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า ตอนนี้โอกาสอยู่ทางฝั่งของฮามาสแล้ว ขึ้นกับว่าฮามาสจะตกลงหยุดยิงหรือไม่ ถ้าหากบรรลุข้อตกลงหยุดยิงได้ ก็จะช่วยให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม เข้าสู่กาซาได้อย่างรวดเร็ว และยังกรุยทางไปสู่การเจรจาเพื่อหาหนทางยุติความขัดแย้งแบบถาวรด้วย