11 มีนาคม 2567 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า จากกรณีสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสประทานสัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ RSI ในสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งบันทึกเทปไว้ในเดือน ก.พ. และมีกำหนดออกกาศในวันที่ 20 มีนาคมที่จะถึงนี้ โดยสมเด็จพระสันตะปาปาทรงถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับการถกเถียงกันระหว่างกลุ่มที่สนับสนุนให้ยูเครนหาข้อยุติกับรัสเซียหรือการยกธงขาวกับอีกกลุ่มที่เห็นว่าการทำแบบนี้จะเป็นสร้างความชอบธรรมให้กับการรุกราน พระองค์ทรงตอบว่า ผู้ที่เข้มแข็งที่สุดคือผู้ที่พิจารณาจากสิ่งที่เกิดขึ้น คำนึงถึงประชาชน และมีความกล้าหาญที่จะยกธงขาว  เพื่อเข้าสู่การเจรจาเมื่อเห็นว่าตนเองกำลังพ่ายแพ้และตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สู้ดี

ซึ่งการตอบคำถามนี้ส่งผลให้'ยูเครน'เกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก ที่เสนอให้ยูเครนยกธงขาวและหันมาเจรจากับรัสเซียเพื่อสันติภาพ ต่อมา ดิมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครน กล่าวว่า "ธงชาติของยูเครนมีสีเหลืองกับสีน้ำเงินและจะไม่มันยกธงอื่นนอกเหนือจากนี้"

ดิมิโทร คูเลบา ยังเสนอให้ 'สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส'เดินทางมาเยือนยูเครนอย่างเป็นทางการ เพื่อมาดูให้เห็นกับตาว่าเกิดอะไรขึ้นกับยูเครนบ้าง หลังจากที่ถูกรัสเซียรุกรานมานานมากกว่าสองปี ซึ่งชาวยูเครนนับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกมากกว่า 1 ล้านคน และการมาเยือนของ'สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส'จะช่วยสร้างขวัญและกำลังใจให้ชาวยูเครนผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้

ต่อมา'วาติกัน' อกแถลงการณ์ อธิบายการใช้คำว่า"ยกธงขาว"ของ'สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส' ว่าหมายถึงการหยุดใช้ความรุนแรง การใช้ความกล้าที่จะเจรจาหยุดยิง แต่หลายชาติตีความหมายการยกธงขาว ว่าหมายถึงการยอมแพ้ การแสดงความคิดเห็นในครั้งนี้ของ'สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส' ทำให้หลายชาติไม่เห็นด้วยโดยเฉพาะชาติตะวันตกที่สนับสนุนให้ยูเครนสู้ต่อไป และมองว่าฝ่ายรัสเซียที่เริ่มรุกรานยูเครนก่อน ควรจะเป็นฝ่ายที่ยอมแพ้ ไม่ใช่ยูเครน

ขณะที่ ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนบอกปัดข้อเรียกร้องของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกเรื่องเจรจากับรัสเซียด้วยการเปรียบเทียบว่า เป็นเพียงการไกล่เกลี่ยเสมือนจริง