14 มีนาคม2567 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติผ่านร่างกฎหมาย อาจแบน 'TikTok' (ติ๊กต็อก) หากบริษัทแม่ ByteDance (ไบต์แดนซ์) ไม่ถอนการลงทุนในสหรัฐฯ โดยที่ผ่านมาสหรัฐฯ ได้พยายามควบคุมและปราบปราม 'TikTok' แพลตฟอร์มคอนเทนต์วิดีโอยอดนิยม ที่มีผู้ใช้มากกว่า 170 ล้านคนในสหรัฐฯ หรือครึ่งหนึ่งของพลเมืองสหรัฐฯ จากข้อกังวลด้านความมั่นคงของชาติ ที่มองว่าแอปพลิเคชั่นดังกล่าวมีการสอดแนมและส่งข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ไปให้จีน
ล่าสุดสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีมติผ่านร่างกฎหมายฉบับใหม่ที่อาจมีผลในการแบนแอปพลิเคชัน 'TikTok' ในสหรัฐฯ ร่างกฎหมายดังกล่าวคือ “พระราชบัญญัติปกป้องชาวอเมริกันจากแอปพลิเคชันที่ควบคุมโดยศัตรูต่างชาติ” (Foreign Adversary Controlled Applications Act) โดยจะห้ามไม่ให้มีการดาวน์โหลด 'TikTok' ผ่านแอปสโตร์ของผู้ให้บริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแอปเปิลหรือกูเกิลก็ตามเว้นแต่ว่าไบต์แดนซ์ บริษัทแม่ในจีน จะถอนการลงทุนจาก 'TikTok' ในสหรัฐฯ ระบุชัดเจนว่า บริษัทไบต์แดนซ์ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ต้องยุติการครอบครองกรรมสิทธิเหนือ 'TikTok' ไบต์แดนซ์จะมีเวลา 165 วัน หรือ 6 เดือน มิเช่นนั้น แอปพลิเคชันดังกล่าวจะไม่สามารถเข้าถึงได้ในสหรัฐอีกต่อไป ในการขายสินทรัพย์ของบริษัทในสหรัฐฯ และอาจถูกแบน
ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า มติครั้งนี้สะท้อนความเป็นเอกภาพของที่ประชุม ในการร่วมกันต่อต้านความพยายามของพรรคคอมมิวนิสต์จีน จากการสอดแนมและใช้ข้อมูลของชาวอเมริกัน คะแนนเสียงที่ท่วมท้นคือการเรียกร้อง ให้วุฒิสภาร่วมกันผ่านกฎหมาย และส่งต่อให้ประธานาธิบดีลงนาม เพื่อให้กฎหมายมีผลบังคับใช้
ต่อมานั้นทาง 'TikTok' ออกแถลงการณ์ เรียกร้องวุฒิสภาสหรัฐ พิจารณากฎหมายตามหลักความเป็นจริง” ที่ชาวอเมริกันมากกว่า 170 ล้านคน และธุรกิจในสหรัฐอีก 7 ล้านแห่ง ซึ่งใช้บริการของ 'TikTok'
ขณะที่นายโซ่ว จื่อ โจว ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO TikTok) ยืนกรานว่า แอปฯติ๊กต็อกไม่มีความเกี่ยวข้องกับพรรคคอมมิวนิสต์จีนและรัฐบาลปักกิ่ง และบริษัทไม่เคยส่งมอบข้อมูลให้แก่ทางการจีนด้วย
ทางด้านนายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ออกมาประณามร่างกฎหมายดังกล่าว โดยระบุว่า สหรัฐไม่เคยพบหลักฐานที่บ่งชี้ว่าติ๊กต๊อกคุกคามความมั่นคงของชาติ แต่สหรัฐก็ไม่เคยหยุดปราบปราม 'TikTok'
พฤติกรรมการกลั่นแกล้งดังกล่าวเพราะไม่สามารถเอาชนะในการแข่งขันที่เป็นธรรมได้ ถือเป็นการขัดขวางการดำเนินธุรกิจตามปกติของบริษัทต่าง ๆ ทั้งยังบ่อนทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อสภาพแวดล้อมการลงทุน ตลอดจนเป็นอันตรายต่อระเบียบเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศท้ายที่สุดแล้ว สิ่งนี้จะย้อนกลับมาทำร้ายสหรัฐเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี