จาการ์ตา (รอยเตอร์ส)-ภูเขาไฟรูอัง บนเกาะสุลาเวสี ของอินโดนีเซียปะทุอีก ทำให้ต้องเปิดสนามบินหลายแห่ง ทางการท้องถิ่นเร่งอพยพประชาชนหลายพันคน เนื่องจากหวั่นเกรงว่าอาจเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ ขณะที่เถ้าถ่านปลิวไปไกลถึงมาเลเซีย

สื่อท้องถิ่นอินโดนีเซียรายงานว่า ภูเขาไฟรูอัง ในจังหวัดสุลาเวสีเหนือ บนเกาะสุลาเวสี ประเทศอินโดนีเซีย พ่นกลุ่มควันร้อนอีกครั้งเมื่อวันที่ 2 พ.ค. หลังจากปะทุในวันก่อน ทำให้ต้องปิดโรงเรียนและสนามบินหลายแห่ง ท้องฟ้ามืดครึ้ม และหมู่บ้านหลายแห่งเต็มไปด้วยเถ้าถ่าน แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตขณะที่เถ้าถ่านและเศษซากต่างๆ จากภูเขาไฟ สร้างความเสียหายในหลายหมู่บ้าน และประชาชนหลายร้อยคนต้องอพยพออกจากหมู่บ้าน นอกจากนี้ เถ้าถ่านจากภูเขาไฟยังปลิวไปไกลถึงมาเลเซีย โดยสนามบิน 7 แห่ง ซึ่งรวมทั้งสนามบินนานาชาติแซม ราตูลันกี ในเมืองมานาโด เมืองเอกของจังหวัดสุลาเวสีเหนือยังคงปิดหลังการปะทุในวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 2 สัปดาห์ ส่วนโรงเรียนก็ปิดการเรียนการสอนเพื่อป้องกันเด็กๆ จากเถ้าถ่านภูเขาไฟ

หน่วยงานทางธรณีวิทยาของอินโดนีเซีย เรียกร้องให้ประชาชนอยู่ห่างจากปากปล่องภูเขาไฟอย่างน้อย 7 กิโลเมตร โดยได้เตือนผู้คนบนเกาะตากูลันดัง ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งใ
กล้กับภูเขาไฟมากที่สุด ระวังกลุ่มควันและเถ้าถ่านภูเขาไฟที่ร้อนจัด จากการปะทุเพิ่มเติมและอาจเกิดสึนามิ หากโดมภูเขาไฟพังทลายลงในทะเล

ด้านสำนักงานค้นหาและกู้ภัยแห่งชาติ ได้เผยแพร่คลิปวีดีโอ แสดงให้เห็นชาวบ้านหลายร้อยคนจากเกาะตากูลันดัง ถูกอพยพขึ้นเรือของกองทัพ ส่วนอีกหลายร้อยคนก็กำลังรอที่ท่าเรือท้องถิ่นเพื่ออพยพ โฆษกของสำนักงานค้นหาและกู้ภัยฯ กล่าวว่า มีประชาชน 11,000-12,000 คน อาศัยอยู่ภายในเขตอันตรายรัศมี 7 กิโลเมตร จะต้องอพยพไปอยู่ในที่พักพิงชั่วคราวของรัฐบาล โดยก่อนหน้านี้ ช่วงที่ภูเขาไฟรูอัง ปะทุในวันที่ 17 เมษายน สำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซีย เตือนว่า การปะทุครั้งต่อไปอาจทำให้บางส่วนของภูเขาไฟพังถล่มลงในทะเล

ภูเขาไฟรูอังเป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ประมาณ 130 ลูกในอินโดนีเซีย ซึ่งมักเกิดการระเบิดของภูเขาไฟและแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง เนื่องจากที่ตั้งของประเทศอยู่ในเขตที่เรียกว่า “วงแหวนแห่งไฟ” ในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเป็นแนวรอยเลื่อนที่ทอดยาวจากชายฝั่งตะวันตกของทวีปอเมริกา ผ่านญี่ปุ่นและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้