7 พ.ค. 2567 สำนักข่าว Kyodo News ของญี่ปุ่น รายงานข่าว Biden's labeling of Japan as xenophobic "regrettable," gov't spokesman says ระบุว่า โยชิมาสะ ฮายาชิ (Yoshimasa Hayashi) หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น ได้กล่าวถึงกรณี โจ ไบเดน (Joe Biden) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวพาดพิงถึงประเทศญี่ปุ่นว่ามีท่าทีไม่ต้อนรับชาวต่างชาติ ว่า รู้สึกเสียใจที่ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวเช่นนั้น แต่ก็จะยังคงเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์แบบทวิภาคีกับสหรัฐฯ ต่อไป
รายงานของสื่อญี่ปุ่น อ้างถึงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2567 ในงานระดมทุนหาเสียงสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มีกำหนดการลงคะแนนเสียงในช่วงปลายปี 2567 ซึ่ง ไบเดน ได้ปราศรัยต่อหน้าฐานเสียงที่เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย ว่า สิ่งที่ทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐฯ เติบโต เพราะสหรัฐฯ มีนโยบายเปิดรับชาวต่างชาติที่ต้องการย้ายถิ่นฐาน พร้อมกับได้เปรียบเทียบกับหลายประเทศ ซึ่งนอกจากญี่ปุ่นแล้ว ยังพาดพิงถึงจีน รัสเซียและอินเดีย ที่ประสบปัญหาเศรษฐกิจหยุดชะงัก ว่าเป็นเพราะชาติเหล่านั้นไม่ค่อยต้อนรับผู้ย้ายถิ่นจากต่างแดน
แม้จะมีเนื้อหาที่ไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับนโยบายการย้ายถิ่นฐานของญี่ปุ่น แต่ถึงกระนั้น ฮายาชิ ก็ยังกล่าวว่า ญี่ปุ่นเชื่อว่าผู้นำสหรัฐฯ ไมได้ตั้งใจทำลายความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ชาติ แต่สิ่งที่ไบเดนพูดถึงนั้น หมายถึงการอธิบายบทบาทของผู้อพยพ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อีกทั้งยังย้ำถึงการเยือนสหรัฐฯ ของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ (Fumio Kishida) เมื่อเดือน เม.ย. 2567 ที่ผ่านมา ว่าการเยือนสหรัฐฯ ของผู้นำญี่ปุ่น เป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี คือภาพความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ในวันที่ 2 พ.ค. 2567 สำนักข่าว CNN ของสหรัฐฯ รายงานข่าว Biden calls US ally Japan ‘xenophobic’ along with India, Russia and China ระบุว่า ในงานเลี้ยงที่จัดขึ้นช่วงค่ำวันที่ 1 พ.ค. 2567 ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยในช่วงหนึ่งของงาน ปธน.ไบเดน ได้กล่าวว่า ประเทศอย่างญี่ปุ่น จีน อินเดียและรัสเซีย จะมีสภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้นกว่านี้ หากชาติเหล่านั้นเปิดรับผู้อพยพย้ายถิ่นชาวต่างชาติ
“คุณรู้ไหม สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เศรษฐกิจของเราเติบโตก็เพราะคุณและคนอื่นๆ อีกหลายคน ทำไม เพราะเรายินดีต้อนรับผู้อพยพ เรามองดูเหตุผล ดูสิ ลองคิดดู เหตุใดจีนถึงหยุดชะงักทางเศรษฐกิจอย่างเลวร้าย? ทำไมญี่ปุ่นถึงมีปัญหา? ทำไมรัสเซีย? ทำไมถึงเป็นอินเดีย? เพราะพวกเขากลัวชาวต่างชาติ พวกเขาไม่ต้องการผู้อพยพ” ผู้นำสหรัฐฯ กล่าว
ต่อมาในวันที่ 2 พ.ค. 2567 คาริน ฌอง-ปิแอร์ (Karine Jean-Pierre) โฆษกทำเนียบขาว ชี้แจงกับสื่อมวลชน ว่า สิ่งที่ ไบเดน กล่าวถึงนั้น เป็นความพยายามอธิบายจิตวิญญาณความเป็นชาติของสหรัฐอเมริกา ซึ่งก็คือการเป็นประเทศของผู้อพยพย้ายถิ่นฐาน ส่วนการพาดพิงญี่ปุ่นกับอินเดียนั้นเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างๆ และย้ำว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับญี่ปุ่น จะดำเนินต่อไปอย่างยั่งยืน ส่วนคำถามว่าหลังจากนี้ผู้นำสหรัฐฯ จะแสดงความคิดเห็นแบบนั้นอีกหรือไม่ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า นั่นก็คือกับผู้นำสหรัฐฯ
ก่อนหน้านั้น จอห์น เคอร์บี (John Kirby) โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ได้กล่าวว่า ตนไม่ตระหนักถึงการสื่อสารใดๆ ระหว่างทำเนียบขาวกับรัฐบาลของญี่ปุ่นหรืออินเดีย โดย ปธน.ไบเดน ให้ความสำคัญกับความสามารถที่พวกเขานำเสนอในประเด็นต่างๆ ไม่ใช่เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม CNN ได้อ้างถึงการให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุที่ออกอากาศภาคภาษาสเปน เมื่อเดือน มี.ค. 2567 ว่า ญี่ปุ่น รัสเซียและจีน ไม่ต้อนรับชาวต่างชาติ ไม่ต้องการคนชาติอื่นนอกจากคนของชาติตนเอง
คำวิพากษ์วิจารณ์ญี่ปุ่นครั้งล่าสุดเกิดขึ้นไม่ถึงหนึ่งเดือนหลังจากที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ เยือนสหรัฐฯ และเกือบหนึ่งปีหลังจากที่ให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี (Narendra Modi) สำหรับการเยือนอย่างเป็นทางการ ไบเดนพึ่งพาการปรับปรุงความสัมพันธ์กับทั้งญี่ปุ่นและอินเดียในฐานะการถ่วงดุลสำคัญต่ออิทธิพลที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกของจีน ทั้งนี้ ในงานเลี้ยงอาหารค่ำของรัฐซึ่งจัดขึ้นที่ทำเนียบขาวเมื่อเดือน เม.ย. 2567 ไบเดนกล่าวว่าญี่ปุ่นและสหรัฐฯ มีค่านิยมเดียวกัน คือความมุ่งมั่นต่อประชาธิปไตย และเสรีภาพในการให้เกียรติแบบเดียวกัน และเวลานี้ความเป็นพันธมิตรของทั้ง 2 ชาติ แข็งแกร่งกว่าที่เคยเป็นมาอย่างไม่ต้องสงสัย
รายงานของ CNN กล่าวต่อไปว่า แม้ญี่ปุ่นจะประสบปัญหาโครงสร้างประชากรอย่างรุนแรงมายาวนาน ซึ่งกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก แต่แดนอาทิตย์อุทัย รวมถึงประเทศอื่นๆ ร่วมภูมิภาคเอเชียตะวันออก ยังคงปฏิเสธที่จะเพิ่มจำนวนประชากรด้วยวิธีเปิดรับชาวต่างชาติที่ต้องการอพยพเข้าไปตั้งถิ่นฐาน ขณะที่ ความคิดเห็นของผู้นำสหรัฐฯ เกิดขึ้นท่ารมกลางแรงกดดันทางการเมืองภายในสหรัฐฯ เกี่ยวกับนโยบายการย้ายถิ่นฐานของรัฐบาล ท่ามกลางทรัพยากรที่ตึงเครียดในการจัดการกับการไหลเข้าของผู้อพยพ และการวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดจากพรรครีพับลิกัน คู่แข่งทางการเมืองของพรรคเดโมแครต ต้นสังกัดของไบเดน
ขอบคุณเรื่องจาก
https://english.kyodonews.net/news/2024/05/f4954b2b505f-bidens-labeling-of-japan-as-xenophobic-regrettable-govt-says.html
https://edition.cnn.com/2024/05/02/politics/biden-japan-xenophobic-us-ally/index.html
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี