มอสโก (เอพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) - ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่พร้อมสร้างความประหลาดใจ ด้วยการปลดรัฐมนตรีกลาโหมคนใกล้ชิด และกำกับดูแลการทำสงครามยูเครนมาตั้งแต่ต้น โยกไปดูแลสภาความมั่นคง แล้วเสนอชื่อพลเรือนผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์เป็นรัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่แทน

ปูติน ซึ่งเพิ่งสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 5 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ยื่นเอกสารเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีต่อวุฒิสภาตามกระบวนการ โดยได้ปลด พล.อ.เซอร์เก ชอยกู วัย 68 ปี จากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม โดยปูตินให้พลเอกชอยกู ซึ่งเป็นบุคคลที่ทำงานใกล้ชิดมานาน ไปเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแทน นิโกไล ปาตรูเชฟ และจะให้กำกับดูแลอุตสาหกรรมทหาร ส่วนปาตรูเชฟจะไปดำรงตำแหน่งอื่นที่ยังไม่มีการประกาศ โดยที่การปรับเปลี่ยนในบางตำแหน่งจะต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา

ส่วนผู้ที่จะมาเป็นรัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่นั้น คือ อังเดร เบลูซอฟ อดีตรองนายกรัฐมนตรี วัย 65 ปี ซึ่งทำให้ผู้คนพากันประหลาดใจ เพราะเขาเป็นพลเรือนไม่มีประสบการณ์งานในกองทัพ โดยที่ผ่านมาเคยเป็นที่ปรึกษาด้านนโยบายเศรษฐกิจเท่านั้น ส่วนตำแหน่งสำคัญในกองทัพคือประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมทำเนียบรัฐบาลรัสเซียยืนยันว่า พล.อ.วาเลอรีเกราซิมอฟ จะยังคงอยู่ในตำแหน่งนี้ต่อไป ด้วยภารกิจหลัก คือการบัญชาการปฏิบัติการทางทหารรัสเซียในยูเครน

การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงด้านสายงานบังคับบัญชาครั้งใหญ่ที่สุดที่สุดในรอบ 12 ปีและเป็นครั้งแรกตั้งแต่รัสเซียเริ่มทำสงครามในยูเครน โดยเป็นที่ทราบกันดีว่า ชอยกูวัย 68 ปี อยู่ในตำแหน่งเจ้ากระทรวงกลาโหมมานานตั้งแต่ปี 2555 และเท่าที่ผ่านมาถือว่าเป็นทหารระดับสูง ซึ่งใกล้ชิดกับและได้รับความไว้วางใจมากที่สุดคนหนึ่งจากปูติน

โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีกล่าวว่า เป็นการปรับเปลี่ยนที่สมเหตุสมผล เนื่องจากสถานการณ์ในรัสเซียขณะนี้ใกล้ที่จะคล้ายกับสถานการณ์ช่วงกลางคริสต์ทศวรรษ 1980 ของอดีตสหภาพโซเวียตที่งบประมาณรายจ่ายด้านกองทัพและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายครองสัดส่วนร้อยละ 7.4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี จำเป็นต้องทำให้งบประมาณเหล่านี้สอดคล้องและเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจในภาพรวม จึงเป็นเหตุผลที่ประธานาธิบดีต้องการพลเรือนที่เป็นนักเศรษฐศาสตร์มานั่งตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม เพราะผู้ที่เปิดรับนวัตกรรมคือผู้ที่จะมีชัยชนะในสมรภูมิ

อเล็กซานเดอร์ เบานอฟ อดีตนักการทูตชาวรัสเซียมองการเคลื่อนไหวของปูตินว่า เขาต้องการเอาชนะสงครามอย่างเบ็ดเสร็จ ด้วยการใช้อำนาจด้านอุตสาหกรรมการผลิตอาวุธและเศรษฐกิจที่เหนือกว่ายูเครน ขณะที่ มาร์ก แกลีออตตีผู้อำนวยการบริษัทที่ปรึกษาด้านข่าวกรองมองว่า การมีนักเศรษฐศาสตร์เป็นรัฐมนตรีกลาโหมจะทำให้การอ้างว่าต้องให้ความสำคัญกับกลาโหมมากกว่าเศรษฐกิจฟังดูมีน้ำหนัก ด้านรอยเตอร์สคาดว่า ผู้นำรัสเซียอาจต้องการให้การใช้จ่ายด้านกลาโหมมีความถี่ถ้วนมากขึ้นหลังจาก ทิมูร์ อีวานอฟ รัฐมนตรีช่วยกลาโหมที่สนิทกับรัฐมนตรีกลาโหมคนปัจจุบัน ถูกอัยการฟ้องร้องว่า รับสินบนเกือบ 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (เกือบ 400 ล้านบาท)