แอตแลนตา/วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์ส/ซีเอ็นเอ็น) - ประธานาธิบดี โจ ไบเดน และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เสร็จสิ้นการโต้วาทีแสดงวิสัยทัศน์ หรือดีเบตนัดแรกแล้ว ต่างฝ่ายต่างโจมตีกันอย่างหนักในหลายประเด็น สมาชิกพรรครีพับลิกันที่สนับสนุนทรัมป์ ประกาศชัยชนะ ด้านรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยอมรับ ไบเดนออกตัวช้าในการดีเบต แต่ขอให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ความสำคัญกับผลงานมากกว่าการแสดงวิสัยทัศน์
การเสร็จสิ้นการโต้วาทีแสดงวิสัยทัศน์ หรือดีเบตนัดแรก ระหว่างประธานาธิบดี โจ ไบเดน และอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จัดขึ้นโดยสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น ตั้งแต่เวลา 21.00-22.30 น. วันพฤหัสบดีตามเวลาตะวันออกสหรัฐฯ ตรงกับเวลา 08.00-09.30 น. วานนี้ตามเวลาไทย (28 มิ.ย.) โดยมีการถ่ายทอดสดจากห้องส่งที่ไม่ผู้ชม ไบเดน วัย 81 ปี และทรัมป์ วัย 78 ปี ต่างโจมตีกันในประเด็นคำถามต่างๆ ของผู้ดำเนินรายการคือ เจค แท็ปเปอร์ และ ดานา แบช ไล่ตั้งแต่เรื่องภาวะเศรษฐกิจ สิทธิการทำแท้งนโยบายต่างประเทศ การเข้าเมือง ความเป็นประชาธิปไตย คดีความที่มีอยู่ คุณภาพชีวิตคนผิวดำ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สถานะของกองทุนประกันสังคม ไปจนถึงค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูลูก
โดยในระหว่างการดีเบต ไบเดนมีเสียงแหบแห้งหลายครั้ง แหล่งข่าวใกล้ชิดการเตรียมตัวดีเบตเผยว่า ไบเดนเป็นหวัดมาหลายวัน ซีเอ็นเอ็นอ้างบันทึกของแพทย์ประจำตัวประธานาธิบดีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า ไบเดนมีอาการกรดไหลย้อนเป็นครั้งคราว
ด้านสมาชิกพรรครีพับลิกันที่สนับสนุนทรัมป์ ประกาศชัยชนะต่อสื่อมวลชน ที่สปินรูม(spin room) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่จัดให้สื่อมวลชนสามารถพูดคุยกับผู้ดีเบต และ/หรือตัวแทนหลังเสร็จสิ้นการดีเบต โดย เอลิซ สเตฟานิคสส.รีพับลิกันรัฐนิวยอร์ก กล่าวว่า เป็นชัยชนะอย่างท่วมท้นล้นหลาม และที่สำคัญที่สุดคือ ทรัมป์ไม่เพียงมุ่งชนะเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนนี้เท่านั้น แต่ยังนำความสำเร็จมาให้ชาวอเมริกัน นำนโยบายที่มีประสิทธิภาพสมัยเป็นประธานาธิบดีสมัยแรกกลับมาใช้ สร้างความมั่นคงให้แก่พรมแดน ปลดล็อกความเป็นอิสระด้านพลังงานของสหรัฐ และยืนหยัดเพื่อครัวเรือนทำงานหนักที่ลำบากเพราะไบเดนผลาญเงินหลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐอย่างไร้เหตุผลจนเกิดภาวะเงินเฟ้อ
ส่วน ทิม สก็อตต์ สว.รีพับลิกันรัฐเซาท์แคโรไลนา เชื่อว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอเมริกันร้อยละ 10-15 ที่ยังไม่ตัดสินใจหากได้ชมการดีเบตครั้งนี้จะต้องลงคะแนนให้ทรัมป์ เพราะได้เห็นนักการเมือง 2 คนที่มีความแตกต่างกันมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา และทรัมป์มีความเหนือกว่าไบเดนอย่างไม่สามารถปฏิเสธได้
ขณะที่ รองประธานาธิบดี กมลาแฮร์ริส ของสหรัฐฯ ตอบคำถามของ แอนเดอร์สัน คูเปอร์ ผู้ประกาศข่าวของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น เรื่องการดีเบตของไบเดนด้วยการยอมรับว่าประธานาธิบดีไบเดนออกตัวช้าในการดีเบตแต่จบได้อย่างหนักแน่น ผู้คนอาจถกเถียงกันเรื่องลีลาการดีเบต แต่ท้ายที่สุดแล้ว การเลือกตั้งและผู้ที่จะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะต้องเน้นเรื่องเนื้อหาสาระเป็นหลัก ซึ่งก็เห็นความแตกต่างชัดเจนแล้ว พร้อมกับแจกแจงเรื่องที่เธออ้างว่า ทรัมป์โกหกระหว่างการดีเบตหลายเรื่อง
การดีเบตมีขึ้นในช่วงที่สังคมสหรัฐเกิดการแบ่งแยกขั้วอย่างชัดเจน และผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีความกังวลทางการเมือง ผลสำรวจของรอยเตอร์ส/อิปซอส เมื่อเดือนพฤษภาคมพบว่า ผู้ตอบ2 ใน 3 เกรงว่าจะเกิดความรุนแรงหลังการเลือกตั้ง ดังที่กลุ่มสนับสนุนทรัมป์เคยบุกก่อจลาจลที่รัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ของทรัมป์ในการเลือกตั้งปี 2563ขณะเดียวกัน ด้วยความที่ทั้งไบเดนและทรัมป์อายุมากด้วยกันทั้งคู่ ทำให้การประชันวิสัยทัศน์ครั้งแรกนี้ ทั้งไบเดนและทรัมป์ต่างตกอยู่ใต้แรงกดดัน ให้ต้องแสดงความฟิตของสุขภาพทั้งกายและใจและสติปัญญา มากพอที่จะสามารถเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้อีก 4 ปี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี