วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์ส) - นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล เตรียมกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมร่วม 2 สภารัฐสภาสหรัฐฯ ระหว่างการเยือนสหรัฐฯ และจะพบ โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครประธานาธิบดีสหรัฐฯ พรรครีพับลิกัน

นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล เตรียมกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมร่วม 2 สภารัฐสภาสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตันดี.ซี. ช่วงบ่ายวันพุธตามเวลาท้องถิ่นวันที่ 24 ก.ค.ตรงกับกลางดึกต่อเนื่องเช้ามืดวันที่ 25 ก.ค. ตามเวลาไทย หลังจากเนทันยาฮูเดินทางถึงกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ 22 ก.ค. คาดว่าผู้นำอิสราเอลจะขอให้รัฐสภาสหรัฐฯ ย้ำการสนับสนุนใหม่อีกครั้ง ต่อปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซา

หลังจากกล่าวถ้อยแถลงต่อรัฐสภาสหรัฐฯ แล้ว เนทันยาฮูมีกำหนดจะพบกับประธานาธิบดี โจ ไบเดน และรองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส ซึ่งได้กลายเป็นเต็งหนึ่งผู้สมัครประธานาธิบดีพรรคเดโมแครตไปแล้ว หลังจากไบเดนถอนตัวไป จากนั้นในวันศุกร์ที่ 26 ก.ค. เนทันยาฮูจะพบกับอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งได้ตอบรับคำขอพบของเนทันยาฮู ที่ได้ขอพบกันแบบพบหน้า

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า หากทรัมป์ชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้ง จะช่วยให้เนทันยาฮูมีอิสระมากขึ้นในการรบกับกลุ่มฮามาส หลังจากความสัมพันธ์ระหว่างเนทันยาฮูกับทรัมป์ ในสมัยที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่างปี 2017-2021 นั้นมีแนวนโยบายและแนวคิดที่สอดคล้องกัน สหรัฐฯ ได้ย้ายสถานทูตสหรัฐฯ จากนครเทลอาวีฟ ไปยังนครเยรูซาเล็ม ตามเป้าหมายที่มีมายาวนานของอิสราเอล สร้างความยินดีให้แก่อิสราเอล แต่สร้างความโกรธแค้นให้แก่ปาเลสไตน์ ในสมัยทรัมป์เป็นประธานาธิบดี ยังเกิดข้อตกลงสำคัญที่เรียกว่า “ข้อตกลงอับราฮัม”(Abraham Accords) เป็นข้อตกลงที่บรรลุโดยสหรัฐฯ เป็นตัวกลาง ข้อตกลงนี้ทำให้เกิดการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตแบบทวิภาคีในระดับปกติ ระหว่างอิสราเอลกับบาห์เรนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ได้ตำหนิเนทันยาฮูว่าอิสราเอลล้มเหลวด้านความมั่นคง ที่ปล่อยให้เกิดเหตุกลุ่มฮามาสบุกข้ามพรมแดนโจมตีในอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปีที่แล้ว ซึ่งเป็นชนวนของสงครามกาซาที่ยืดเยื้อมาถึงปัจจุบันนี้เกือบ 10 เดือนแล้ว โดยในตอนนั้นทรัมป์ได้เรียกร้องให้อิสราเอลต้องรีบหาทางปล่อยตัวประกันที่ถูกฮามาสจับไว้ และจบสงครามในกาซาโดยเร็ว