วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์/ซีเอ็นเอ็น) – คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังได้แรงหนุนท่วมท้นจากสมาชิกพรรคเดโมแครต ในการลงเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายนนี้ เริ่มหาเสียงเป็นครั้งแรก สร้างความเชื่อมั่นว่าเป็นมือกฎหมายที่จะมาปราบ โดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากรีพับลิกัน
แฮร์ริส ได้ปราศรัยหาเสียงเป็นครั้งแรกหลังจากได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแทน โจ ไบเดน โดยเลือกไปเปิดเวทีที่รัฐวิสคอนซิน ซึ่งพรรครีพับลิกันเพิ่งจัดการประชุมใหญ่และประกาศอย่างเป็นทางการให้ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นตัวแทนพรรคชิงทำเนียบขาวใจความหลักของคำปราศรัยที่แฮร์ริสใช้ในการต่อสู้กับทรัมป์ มาจากประสบการณ์ทำงานในตำแหน่งอัยการของเธอ โดยได้เปรียบเทียบว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นต่อสู้ระหว่างผู้รักษากฎหมายกับอาชญากรผู้ต้องคำพิพากษาคดีอาญา เนื่องจากทรัมป์ เป็นอดีตประธานาธิบดีคนแรกและคนเดียวที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดคดีอาญา จากกรณีจ่ายเงินเปิดปากนักแสดงภาพยนตร์ผู้ใหญ่ แล้วยังมีคดีอาญาอีก 3 คดีที่อยู่ในกระบวนการฟ้องร้อง แฮร์ริสกล่าวว่า เธอเป็นผู้คุ้มกฎหมายต่อสู้กับคนร้ายทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นคนล่วงละเมิดทางเพศ คนคดโกง หรือ ผู้หลอกลวงเพื่อประโยชน์ตัวเอง
นับตั้งแต่แฮร์ริสได้กลายเป็นตัวแทนพรรคอย่างไม่เป็นทางการ กระแสตอบรับและคะแนนนิยมดีวันดีคืนจากทั้งแกนนำพรรคและคนดัง เห็นได้จากยอดเงินบริจาคที่เพิ่มสูง เพียงเวลาแค่ 1 วันครี่ง ได้รับบริจาคเพิ่มกว่า 100 ล้านดอลลาร์ (กว่า 3,600 ล้านบาท) ภายในเวลาเพียง 36 ชั่วโมง หลังจากประธานาธิบดี โจ ไบเดน ยอมถอนตัวออกจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันอาทิตย์ ยิ่งไปกว่านั้น การสำรวจความนิยมของสำนักข่าวรอยเตอร์ส ยังพบว่า เธอมีคะแนนอยู่ที่44 จุด สูงกว่าทรัมป์ที่ได้ 42 จุด
ในเวลาไล่เลี่ยกัน ทรัมป์ ได้กล่าวโจมตีแฮร์ริสว่าเป็นคนพูดปดที่มีแนวคิดซ้ายจัด ซึ่งจะทำลายชาติบ้านเมือง แต่เขาเห็นว่าจะสามารถเอาชนะได้ง่ายกับไบเดน ส่วนสมาชิกรีพับลิกันและทีมหาเสียงของทรัมป์ต่างมุ่งโจมตีแฮร์ริสว่าผลงานย่ำแย่เรื่องอาชญากรรม ผู้อพยพ และ ปัญหาเงินเฟ้อ จนกระทั่งมีการจัดอันดับว่าเป็นรองประธานาธิบดีที่ความนิยมต่ำสุด
ในอีกด้านหนึ่ง คิมเบอร์ลี ชีเทิลผู้อำนวยการหน่วยอารักขาของสหรัฐฯ(Secret Service) ลาออกจากตำแหน่ง หลังจากหน่วยงานของเธอตกอยู่ภายใต้การตรวจสอบอย่างเข้มงวด จากความล้มเหลวในการป้องกันความพยายามลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ โดยเธอระบุในหนังสือลาออกที่ส่งถึงเจ้าหน้าที่เมื่อวันอังคารที่ 23 ก.ค.ระบุว่า ในฐานะผู้อำนวยการ เธอขอรับผิดชอบอย่างเต็มที่สำหรับความล้มเหลวด้านความปลอดภัย
ทั้งนี้ ชีเทิลเผชิญหน้ากับเสียงตำหนิและเรียกร้องจากทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันให้ลาออก หลังจากเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการกำกับดูแลของสภาผู้แทนราษฎร เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเธอปฏิเสธที่จะตอบคำถามจากสมาชิกรัฐสภาที่ผิดหวังเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยสำหรับการชุมนุมและการตอบสนองของเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายต่อพฤติกรรมที่น่าสงสัยของมือปืน
ด้านประธานาธิบดีไบเดน ระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า การตรวจสอบอิสระในเหตุการณ์วันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา จะยังคงดำเนินต่อไป และว่าเขาจะแต่งตั้ง
ผู้สืบทอดตำแหน่งผู้อำนวยการหน่วยอารักขาสหรัฐฯ ในเร็วๆ นี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี