วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์)-ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ให้เหตุผลในการถอนตัวจากการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีกับ โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของประชาธิปไตยในสหรัฐฯ พร้อมกับระบุว่า เขาหลีกทางเพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามา
ไบเดน กล่าวต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกหลังจากประกาศยุติความพยายามในการลงเลือกตั้งเพื่อดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ อีกสมัย โดยเขากล่าวปราศรัยที่ห้องทำงานรูปไข่ที่ทำเนียบขาว มีเนื้อหาใจความว่า เขาเคารพในสถานที่ทำงานแห่งนี้ แต่เขารักประเทศของเขามากกว่า นั่นทำให้เขาตัดสินใจในหนทางที่ดีที่สุด คือการส่งไม่ต่อให้กับคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันภายในชาติ เขายังแสดงความชื่นชมรองประธานาธิบดี คามาลาแฮร์ริส ที่เขาให้การสนับสนุนให้เป็นตัวแทนพรรคชิงตำแหน่งประธานาธิบดีว่า เป็นบุคคลที่มีความสามารถ อดทน นอกจากนั้น ยังเป็นคู่หูที่ดีและจะเป็นผู้นำประเทศได้
ไบเดน วัย 81 ปี เมินกระกดดันจากภายในพรรคเดโมแครตให้เขาหลีกทางให้บุคคลอื่นเป็นตัวแทนพรรคในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่จะมีการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนนี้ หลังจากที่แสดงผลงานการโต้วาทีแสดงวิสัยทัศน์ได้อย่างย่ำแย่เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน แต่ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจถอนตัว ถือเป็นประธานาธิบดีในตำแหน่งคนแรก ที่ประกาศถอนตัวอย่างกระทันหัน และไม่ชิงตำแหน่งอีกสมัย นับตั้งแต่ปี 1968 เมื่อ ลินดอน บี. จอห์นสันที่ถูกวิจารณ์อย่างหนัก จากการรับมือในสงครามเวียดนาม ที่ต้องถอนตัวชิงตำแหน่งอีกสมัย
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ซึ่งอยู่ระหว่างเยือนสหรัฐฯ ได้กล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมร่วมของวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร
ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันพุธที่ 25 ก.ค.เนทันยาฮู กล่าวว่า อเมริกาและอิสราเอลต้องยืนหยัดร่วมกัน และบอกว่าศัตรูของอิสราเอลก็คือศัตรูของอเมริกาด้วย เพื่อขอเสียงสนับสนุนสำหรับการทำสงครามในกาซา พร้อมกับโจมตีอิหร่านและผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์อิหร่าน
ในการปราศรัยต่อรัฐสภาสหรัฐฯ ของเนทันยาฮูครั้งนี้ เขาได้ให้คำมั่นด้วยว่าจะนำตัวประกันจากกาซากลับบ้าน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการเจรจาหยุดยิงกับกลุ่มฮามาส มีขึ้นขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในกาซาพุ่งขึ้นเป็นเกือบ 40,000 ศพแล้ว และระหว่างการแถลงต่อรัฐสภาเป็นเวลา 52 นาที เนทันยาฮูไม่ได้กล่าวถึงการเจรจาหยุดยิง แม้จะมีแรงกดดันจากนานาชาติมานานหลายเดือนให้บรรลุข้อตกลงดังกล่าว
ส่วนที่ด้านนอกอาคารรัฐสภา มีผู้ประท้วงที่สนับสนุนปาเลสไตน์หลายพันคนชุมนุมอยู่บนถนนใกล้อาคารรัฐสภา เพื่อประท้วงการปรากฏตัวของเนทันยาฮู ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยมีการติดตั้งรั้วสูงรอบอาคารรัฐสภา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำอาคารรัฐสภารักษาความปลอดภัยเข้มข้น อย่างไรก็ดี มีความรุนแรงในบางจุดของกลุ่มผู้ประท้วงไม่นานก่อนที่เนทันยาฮูจะเริ่มแถลง เจ้าหน้าที่ต้องฉีดสเปรย์พริกไทยใส่ผู้ประท้วง จนมีผู้บาดเจ็บหลายคน และผู้ประท้วงถูกควบคุมตัวเกือบ 10 คน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี