วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์ส/ซีเอ็นเอ็น) - รองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส ตัดสินใจเลือก ทิม วอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา เป็นคู่หูลงสนามเลือกตั้งใหญ่ในปลายปีนี้ แข่งขันกับอดีตรองประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และ เจ ดี แวนซ์ สว.จากรัฐโอไฮโอ

สื่อในสหรัฐฯ รายงานช่วงเช้าวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น (6 ส.ค.) ว่าแฮร์ริส เลือก วอลซ์ ลงชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีคู่กันเธอ ก่อนที่จะโพสต์ข้อความทางแพลตฟอร์ม X ยืนยันการตัดสินใจครั้งนี้ โดยระบุว่า ในฐานะผู้ว่าการรัฐ โค้ช ครู และทหารผ่านศึกทิม วอลซ์ ได้ทำหน้าที่ทุกอย่างเพื่อครอบครัวทั้งหลายเหมือนกับเป็นครอบครัวของเขาเอง เป็นเรื่องเยี่ยมมากที่เขาจะมาร่วมทีม การประกาศยืนยันการเลือกคู่หูเลือกตั้งของแฮร์ริสมีออกมา ก่อนกิจกรรมหาเสียงที่รัฐเพนซิลเวเนียในช่วงเย็นวันอังคาร ที่จะนำเสนอตัวแทนพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 5 พฤศจิกายนให้กับผู้สนับสนุน

วอลซ์ วัย 60 ปี เป็นอดีตครูและอดีตสมาชิกกองกำลังสำรองของรัฐ เริ่มเส้นทางการเมืองด้วยการรับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของรัฐมินนิโซตา ที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากอยู่ในปี 2549 ทำหน้าที่ดังกล่าวเป็นเวลา 12 ปี ก่อนชนะการเลือกตั้งขึ้นเป็นผู้ว่าการรัฐในปี 2561 วอลซ์เริ่มได้รับความสนใจในระดับชาติ จากการที่เขาเรียกทรัมป์ และเจ ดี แวนซ์ ว่าเป็นพวกแปลกประหลาด จนแฮร์ริสนำคำนี้ไปใช้เรียกทั้งคู่ระหว่างหาเสียง ทีมหาเสียงของแฮร์ริสหวังว่า บุคลิกของวอลซ์ที่ดูเข้าถึงง่าย พูดจาโผงผางแบบคนลูกทุ่งแถบมิดเวสต์ จะเป็นที่ชื่นชอบของผู้ลงคะแนนคนรุ่นเก่า

วอลซ์ เป็นผู้ว่าการรัฐมินนิโซตามาแล้ว 2 สมัย เป็นนักการเมืองที่มีนโยบายสายก้าวหน้าหลายด้าน เช่น อาหารกลางวันนักเรียนฟรี กำหนดเป้าหมายสู้โลกร้อน และ ลดภาษีเพิ่มสวัสดิการให้คนชั้นกลาง ก่อนเข้าสู่การเมืองเขายังมีประสบการณ์มากมายจากการทำธุรกิจ การศึกษาและในกองทัพ คนในพรรคเดโมแครตมองว่า วอลซ์จะสามารถถึงคะแนนเสียงผู้ใช้แรงงานมาจากทรัมป์ได้ วอลซ์กล่าวในการหาเสียงครั้งแรกนี้ว่า เขาจะไม่ยอมให้ทรัมป์ ดึงสหรัฐฯ ถอยหลัง เพราะไม่รู้การบริหารบ้านเมือง รู้เพียงแต่หาประโยชน์เข้าตัวเอง

ด้านทีมหาเสียงของทรัมป์ ได้ออกแถลงโจมตีวอลซ์ ทันทีว่า เป็นคนเสรีนิยมสุดขั้วที่อันตรายที่จะกลายเป็นฝันร้ายของชาวอเมริกัน ส่วนคู่แข่งการเมืองฝ่ายตรงข้ามวิจารณ์ว่าในช่วงวิกฤตโควิด-19 เขาออกกฎระเบียบการสวมหน้ากากอนามัย สั่งปิดธุรกิจและโรงเรียน รวมไปถึงความผิดพลาดในการรับมือการจลาจลใหญ่ของคนผิวดำในรัฐมินนิโซตา

หลังจากนี้ ผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของทั้งสองพรรคเริ่มเดินสายหาเสียงตามรัฐต่างๆ เพื่อชิงเสียงสนับสนุนจากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยรายงานข่าวเปิดเผยว่า แฮร์ริสจะแวะไปที่รัฐวิสคอนซิน มิชิแกน แอริโซนา และเนวาดา ส่วนแวนซ์ มีกำหนดเดินสายหาเสียงด้วยตนเองในรัฐสมรภูมิ คือเพนซิลเวเนีย วิสคอนซิน มิชิแกน และนอร์ทแคโรไลนา ในสัปดาห์นี้