วอชิงตัน (รอยเตอร์ส/ซีเอ็นเอ็น) – สหรัฐฯ ประกาศส่งเรือดำน้ำเข้าน่านน้ำตะวันออกกลาง ท่ามกลางปัญหาตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน ซึ่งล่าสุด รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลแจ้งกับรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ว่า อิหร่านกำลังเตรียมการโจมตีอิสราเอลด้วยปฏิบัติการทางทหารขนาดใหญ่

กระทรวงกลาโหม หรือเพนตากอนของสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ ว่าลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐฯ สั่งการให้ส่งเรือดำน้ำติดขีปนาวุธนำวิถี เข้าสู่น่านน้ำทะเลตะวันออกลาง ท่ามกลางปัญหาตึงเครียดที่อิหร่านขู่โจมตีอิสราเอลกรณีเหตุลอบสังหาร อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส ขณะอยู่ในกรุงเตหะราน เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา แม้อิสราเอลยังไม่ได้ยืนยันหรือปฏิเสธ และเหตุโจมตีในกรุงเบรุตของเลบานอนก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมง ทำให้ผู้บัญชาการระดับสูงของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ เสียชีวิต 1 นาย

โดยปัจจุบัน สหรัฐฯ มีเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ ยูเอสเอส จอร์เจีย ประจำการในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งออสตินสั่งการให้กองเรือบรรทุกเครื่องบินอับราฮัม ลินคอล์น เร่งเคลื่อนกำลังเข้าภูมิภาคให้เร็วมากขึ้น แถลงการณ์ของเพนตากอน ระบุด้วยว่า ออสติน เน้นย้ำว่า สหรัฐฯ จะใช้ทุกขั้นตอนที่เป็นไปได้เพื่อปกป้องอิสราเอล กองทัพสหรัฐฯยังจะส่งฝูงบินรบและกองเรือรบ เข้าไปเสริมทัพ ในตะวันออกกลาง เพิ่มขึ้นอีกด้วย เพื่อเตรียมพร้อมรับมือปัญหาตึงเครียดในภูมิภาคที่ส่อเค้าลุกลามบานปลายขึ้นมาได้ทุกเมื่อ

ล่าสุด แอ็กซิโอส (Axios) เว็บไซต์ข่าวในสหรัฐฯ โพสต์ผ่านแพลตฟอร์ม X อ้างแหล่งข่าวว่า โยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอลได้โทรศัพท์ถึงออสตินเมื่อวันอาทิตย์ที่11 ส.ค. เพื่อแจ้งว่า อิหร่านกำลังเตรียมการเรื่องใช้ปฏิบัติการทางทหารขนาดใหญ่โจมตีอิสราเอล กระทรวงกลาโหมอิสราเอลแถลงยืนยันเมื่อวันที่ 12 ส.ค.ว่า มีการโทรศัพท์สนทนาดังกล่าวเกิดขึ้นจริงเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา รัฐมนตรีกลาโหมของทั้ง 2 ประเทศได้หารือกันเรื่องความร่วมมือเชิงปฏิบัติการและเชิงยุทธศาสตร์ รวมถึงความพร้อมของกองทัพอิสราเอลที่จะเผชิญหน้ากับการคุกคามของอิหร่าน