26 สิงหาคม 2567 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หลังจากที่ งค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้ฝีดาษลิง (Mpox) เป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ โดยพวกเขาเน้นย้ำว่า นี่ไม่ใช่ “นิวโควิด” เพราะมีลักษณะการระบาดที่แตกต่างกัน โดยฝีดาษลิงจะแพร่ระบาดผ่านการสัมผัสใกล้ชิด การสัมผัสสารคัดหลั่ง และการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น ขณะที่โควิด-19 แพร่กระจายได้ง่ายกว่าผ่านทางการไอ-จาม
ซึ่งขณะนี้มีรายงานพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงในการระบาดระลอกนี้แล้วใน 18 ประเทศ เป็นประเทศในแอฟริกา 14 ประเทศ ส่วนอีก 4 ประเทศที่เหลือคือ สวีเดน ไทย ฟิลิปปินส์ และปากีสถาน
โดยจุดแรกที่พบสายพันธุ์นี้คือที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (DRC) ปัจจุบัน DRC เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสฝีดาษวานรมากที่สุดในโลก อยู่ที่ 13,791 คน คิดเป็น 96% ของผู้ป่วยทั้งหมดในทวีปแอฟริกา ในจำนวนนี้เป็นเด็กมากกว่าครึ่ง รวมถึงมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 450 ราย
ส่วนประเทศในแอฟริกาที่เหลือที่พบฝีดาษลิง ได้แก่ สาธารณรัฐแอฟริกากลาง 213 เคส, สาธารณรัฐคองโก 146 เคส เสียชีวิต 1 ราย, แคเมอรูน 35 เคส, ไอวอรีโคสต์ 28 เคส เสียชีวิต 1 ราย, ไนจีเรีย 24 เคส, แอฟริกาใต้ 22 เคส เสียชีวิต 3 ราย, บูรุนดี 8 เคส, ลิเบอเรีย 5 เคส, กานา 4 เคส, รวันดา 2 เคส, ยูกันดา 2 เคส, เคนยา 1 เคส และโมซัมบิก 1 เคส
ในบรรดาประเทศเหล่านี้ มี 3 ประเทศที่เจอเชื่อสายพันธุ์เคลดวันบีแล้ว คือ เคนยา รวันดา และยูกันดา ทางฝั่งยุโรปตอนนี้มีประเทศเดียวที่พบผู้ติดเชื้อ คือ สวีเดน โดยได้รับการยืนยันแล้วว่า เป็นสายพันธุ์เคลดวัน
ทวีปเอเชียมีถึง 3 ประเทศ คือ ไทย โดยในไทยเป็นชายชาวยุโรปอายุ 66 ปี ที่เพิ่งเดินทางมาจากประเทศแถบแอฟริกา และพบว่าเป็นเชื้อสายพันธุ์เคลดวันบีด้วย ทำให้ไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียที่พบเคลดวันบีนอกประเทศแอฟริกา
ฟิลิปปินส์ ส่วนผู้ป่วยพบในฟิลิปปินส์นั้น เป็นสายพันธุ์เคลดทู โดยผู้ป่วยเป็นชายชาวฟิลิปปินส์ที่ไม่มีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ จึงคาดว่าเป็นการระบาดจากเชื้อที่มีอยู่เดิมในประเทศอยู่แล้ว
และปากีสถานนั้น ผู้ติดเชื้อเป็นผู้ชาย สายพันธุ์ที่พบคือเคลดทู แต่ตอนนี้ทางการไม่สามารถติดตามตัวผู้ป่วยรายนี้ได้ เนื่องจากคาดว่าเขาเดินทางข้ามพื้นที่ไปจังหวัดอื่นแล้ว ทำให้ขณะนี้กำลังเร่งติดตามตัว
โดยในขณะนี้มีอยู่ 5 ประเทศทั่วโลกที่พบเคสฝีดาษวานรสายพันธุ์เคลดวันบี นั่นคือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก , เคนยา, รวันดา, ยูกันดา และไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี