ตั้งตาชม : ผู้คนจำนวนมากนั่งรวมตัวกันด้านอาคารพิพิธภัณฑ์ศิลปะและหอเก็บภาพยนตร์เบิร์คเลย์ ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ เพื่อชมการถ่ายทอดสดการประชันวิสัยทัศน์ หรือดีเบต ระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์ กับ คามาลา แฮร์ริส สองคู่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ฟิลาเดลเฟีย (เอพี/รอยเตอร์ส/ซีเอ็นเอ็น) - โดนัลด์ ทรัมป์ และ คามาลา แฮร์ริส คู่ชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ เสร็จสิ้นการโต้วาทีประชันวิสัยทัศน์ที่หลายฝ่ายรอคอย ทั้งสองต่างแสดงมุมมองสองด้าน ทรัมป์มุ่งโจมตีว่าคู่แข่งทำให้สหรัฐฯ กำลังตกต่ำ ส่วนแฮร์ริส ต้องการก้าวข้ามทรัมป์แล้วมุ่งสู่อนาคต

การประชันวิสัยทัศน์ หรือดีเบต ของผู้สมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นวาระสำคัญทางการเมืองก่อนการเลือกตั้งที่จัดกันมาหลายสิบปี/ครั้งนี้มีความพิเศษตรงที่ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีที่หวังครองตำแหน่งอีกสมัย ประชันกับ แฮร์ริส รองประธานาธิบดีคนปัจจุบันที่เป็นสตรี มีเชื้อสายแอฟริกันและเอเชียใต้ ตัวแทนของพรรคเดโมแครตแทน โจ ไบเดน ที่เคยขึ้นเวทีดีเบตกับทรัมป์มาแล้วเมื่อปลายเดือนมิถุนายน แต่แสดงผลงานย่ำแย่จนต้องถอนตัวไป

กฎกติกาของการดีเบตครั้งนี้ยังเหมือนกับครั้งที่แล้วคือ กำหนดให้เปิดไมโครโฟนเมื่อถึงเวลาของแต่ละคนเพื่อป้องกันการพูดแทรกขัดจังหวะ ห้องที่จัดดีเบตนั้นให้มีเพียงคู่ต่อสู้กับพิธีกรข่าว 2 คน ของสำนักข่าวเอบีซีผู้จัดดีเบตเท่านั้น โดยไม่มีผู้ชมอยู่ด้วยเลย

ในการประชันกันบนเวที พิธีกรผู้ดำเนินรายการได้ตั้งคำถามสลับให้กับแต่ละคนตอบ และจัดเวลาให้ได้ตอบโต้กันด้วย โดยไล่เรียงไปทีละประเด็นที่เป็นตัวแปรในการเลือกตั้ง เช่น เศรษฐกิจ ปัญหาผู้อพยพ สิทธิการทำแท้ง การเมืองระหว่างประเทศ สงครามยูเครนและตะวันออกกลาง ทรัมป์ ได้โจมตีผลงานของรัฐบาลปัจจุบัน ไม่ว่าจะเรื่องเงินเฟ้อรุนแรง เศรษฐกิจฝืดเคือง การเสียตำแหน่งงาน รวมถึงความผิดพลาดในการควบคุมผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายจนสร้างปัญหาและแย่งงานในประเทศ

ส่วนแฮร์ริส ได้เน้นย้ำหลายครั้งว่า เธอไม่ต้องการการเมืองที่สร้างความเกลียดชัง ชี้นิ้ว แบ่งขั้วแบ่งข้าง เพราะเธอมีแผนงานเพื่อสร้างเศรษฐกิจที่ให้โอกาสแก่ทุกคน มุ่งให้คนทั่วไปลืมตาอ้าปากด้วยการแบ่งเบาภาระและส่งเสริมธุรกิจขนาดย่อม เธอยังได้พูดหลายครั้งว่า อเมริกาควรก้าวข้ามทรัมป์ไปได้แล้ว เพราะเป็นการเมืองที่สร้างความวุ่นวาย เป็นบุคคลที่มีคดีติดตัวมากมายและคำนึงถึงประโยชน์ของตัวเอง

ขณะที่ประเด็นอิสราเอลและสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทรัมป์ระบุ จะไม่มีสงครามตั้งแต่แรกถ้าเขายังเป็นประธานาธิบดี กล่าวหา แฮร์ริสเกลียดอิสราเอล เตือนอิสราเอลจะถูกลบหายไปถ้าแฮร์ริสได้เป็นประธานาธิบดี พร้อมรกับโจมตีการขาดภาวะผู้นำของรัฐบาลไบเดน ทำให้รัสเซียบุกยูเครน และว่าเขาจะผลักดันให้ยุติการรบในยูเครน เพราะการยุติความขัดแย้งในยูเครนและเจรจาข้อตกลง เป็นผลประโยชน์ที่ดีที่สุดของสหรัฐฯ ด้านแฮร์ริสโต้ว่า เธอจะมอบขีดความสามารถให้อิสราเอลสามารถป้องกันตนเองได้ตลอดไปเรียกร้องใช้ “ทางแก้ 2 รัฐ” ยุติสงครามกาซาและบอกว่าทรัมป์จะละทิ้งยูเครนแน่นอนถ้าหากเขาได้เป็นประธานาธิบดี การที่ทรัมป์พูดว่าขัดแย้งยูเครนจะจบลงภายใน 24 ชั่วโมง เป็นเพราะเขาแค่จะทิ้งยูเครนไป

ส่วนคำถามที่ว่าใครชนะการดีเบตครั้งนี้ยังเป็นที่ถกเถียงกัน แต่การสำรวจของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นพบว่า ผู้ชมให้แฮร์ริสชนะร้อยละ 63 ส่วนทรัมป์อยู่ที่ 37 แต่แฮร์ริสได้แรงหนุนสำคัญจาก คนดังอย่าง เทย์เลอร์ สวิฟต์ที่หลังดีเบตไม่นาน เธอได้ประกาศว่า รับรองให้แฮร์ริสเป็นผู้นำคนใหม่ เพราะมีนโยบายและแผนการที่ดีสำหรับประเทศชาติ เธอต้องการแสดงตัวเพื่อความชัดเจน เพราะที่ผ่านมาเธอตกเป็นเป้าของเอไอและข่าวปลอม จึงต้องบอกให้สาธารณชนทราบว่าเธอจะเลือกใคร