ฮานอย/เนปิดอว์ (เอเอฟพี/รอยเตอร์ส/เวียดนามนิวส์) - ประชาชนหลายล้านคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเดือดร้อนจากน้ำท่วมบ้านเรือน ไฟฟ้าดับโครงสร้างพื้นฐานเสียหาย หลังไต้ฝุ่น “ยางิ” พัดถล่มภูมิภาคนี้ ยอดผู้เสียชีวิตรวมเพิ่มทะลุ 270 ศพแล้ว โดยเวียดนามเสียชีวิตมากที่สุด 233 ศพ ส่วนเมียนมาเพิ่งยืนยันครั้งแรกยอดผู้เสียชีวิตจากยางิ 36 ศพ

สื่อต่างประเทศรายงานว่า ซูเปอร์ไต้ฝุ่นยางิ ซึ่งถือเป็นพายุไต้ฝุ่นที่มีความรุนแรงที่สุดที่พัดถล่มเอเชียในปีนี้ ได้หอบเอาฝนปริมาณมหาศาลมาด้วย ทำให้เกิดน้ำท่วมหนักในเวียดนาม สปป.ลาว เมียนมา และไทย หลังจากก่อนหน้านี้พัดถล่มฟิลิปปินส์และจีน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วม
ฉับพลัน ดินโคลนถล่ม แม่น้ำล้นตลิ่ง ก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งบ้านเรือนประชาชน ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ทั้งถนนและสถานที่ และมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

เวียดนามได้รับผลกระทบหนักที่สุด หมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดหล่าว กายของเวียดนาม ที่มีเพียง 37 หลัง ถูกน้ำท่วมฉับพลันกลืนหายไปทั้งหมู่บ้านเมื่อวันอังคารที่ 10 ก.ย. ทำให้มีผู้เสียชีวิต42 ศพ สูญหาย 53 คน นับเป็นเหตุร้ายจากไต้ฝุ่นยางิ ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในคราวเดียวในเวียดนาม ขณะที่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 ก.ย. ทีมกู้ภัยที่ระดมมา 650 คน สามารถดึงผู้รอดชีวิตออกมาจากใต้กองโคลนในหมู่บ้านดังกล่าวได้หลายคน

หน่วยงานบรรเทาสาธารณภัยของเวียดนามรายงานว่า ยางิสร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนกว่า 140,000 หลังใน 26 จังหวัดเวียดนาม มีผู้เสียชีวิต 233 ศพ สูญหายมากกว่า 200 คน และมีผู้บาดเจ็บกว่า 850 คน ด้านกระทรวงเกษตรเวียดนามรายงานพื้นที่เพาะปลูกและเลี้ยงปศุสัตว์เสียหายมหาศาลมากกว่า 1.56 ล้านไร่โดยเฉพาะพื้นที่เกษตรรอบกรุงฮานอย เมืองหลวง เสียหายหนักมาก อย่างไรก็ตาม น้ำท่วมในเวียดนามกำลังลดลงแล้ว และกำลังระบายผ่านแม่น้ำแดงลงสู่ทะเล เจ้าหน้าที่สั่งประชาชนอพยพกว่า 50,000 คนล่วงหน้าในหลายเขตที่ตั้งอยู่ในลุมแม่น้ำแดง เพื่อป้องกันอันตรายในระหว่างที่น้ำกำลังระบายผ่านแม่น้ำแดงไปลงทะเล

ส่วนที่เมียนมา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 36 ศพ หลังจากฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมทั้งในและรอบพื้นที่กรุงเนปิดอว์ที่เป็นเมืองหลวงของประเทศ ประชาชนกว่า 50,000 คนต้องอพยพออกจากที่พักอาศัย เจ้าหน้าที่กู้ภัยเมียนมานำเรือกู้ภัยไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมทั้งในกรุงเนปิดอว์ และรอบๆ เมือง ที่เผชิญกับน้ำท่วมรุนแรง ขณะที่สถานีโทรทัศน์เอ็มอาร์ทีวีของรัฐบาลรายงานว่า โรงเรียนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบในกรุงเนปิดอว์ได้งดการเรียนการสอน และมีการแจ้งเตือนประชาชนให้ระวังระดับน้ำท่วมที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น

สื่อต่างประเทศรายงานด้วยว่า ประชาชนราว 1 ใน 3 จากทั้งหมด 55 ล้านคนในเมียนมากำลังต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม แต่หน่วยงานบรรเทาทุกข์หลายแห่งไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ เพราะถูกจำกัดการเข้าถึงและมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย จากการที่กลุ่มกบฏติดอาวุธ ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มต่อต้านและกลุ่มชาติพันธุ์กำลังสู้รบกับกองทัพเมียนมา