วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์ส/ซีเอ็นเอ็น) -โดนัลด์ ทรัมป์ เผยแผนเศรษฐกิจใหม่ตัดหน้าคามาลา แฮร์ริส 1 วัน ประกาศจะเอางานและโรงงานต่างๆ กลับคืนมาจาก จีน เกาหลีใต้ เยอรมนี ขณะที่ผลสำรวจล่าสุดโดยรอยเตอร์ส แฮร์ริสตีตื้นจนไล่ตามทรัมป์ ติดๆ ด้านเศรษฐกิจ

โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯและผู้สมัครประธานาธิบดีพรรครีพับลิกัน เผยแผนเศรษฐกิจใหม่ในการหาเสียงที่เมืองซาวันนาห์ รัฐจอร์เจีย เมื่อวันอังคารที่ 24 ก.ย.โดยประกาศจะเอางานด้านการผลิตและโรงงานต่างๆ กลับคืนมาจากต่างประเทศจากทั้งประเทศคู่แข่งอย่างจีนและจากประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ เองด้วย เช่น เกาหลีใต้และเยอรมนี ทรัมป์สัญญาว่า การผลิตจะหลั่งไหลออกจากจีน เกาหลีใต้และเยอรมนีเข้าสู่สหรัฐฯ ถ้าหากเขาชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 5 พฤศจิกายนนี้

ทรัมป์สัญญาว่า การฟื้นการผลิตมีความสำคัญที่สุดในนโยบายเศรษฐกิจใหม่ของเขา เขาเสนอสิ่งจูงใจหลายอย่างเพื่อจูงใจบริษัทต่างชาติให้ย้ายฐานการผลิตเข้าสู่สหรัฐฯ สัญญาจะเก็บภาษีในระดับต่ำและใช้กฎระเบียบน้อยบริษัทต่างชาติ ผ่านการจัดตั้งเขตการผลิตพิเศษหลายแห่งบนที่ดินของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เขตการผลิตพิเศษนี้จะเก็บภาษีพิเศษในระดับต่ำ และจะมีกฎระเบียบควบคุมน้อย ทรัมป์ระบุต่อไปว่า จะแต่งตั้งตำแหน่งใหม่เรียกว่า “ทูตการผลิตโลก” (global manufacturing ambassador) เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่บริษัทต่างชาติในการย้ายฐานเข้าสู่สหรัฐฯ

ทรัมป์ชิงเปิดแผนเศรษฐกิจที่จอร์เจียตัดหน้าแฮร์ริส 1 วัน โดยเธอกำลังจะเปิดเผยแผนเศรษฐกิจสำคัญในวันพุธตามเวลาสหรัฐฯ (25 ก.ย.) ในการหาเสียงที่รัฐเพนซิลเวเนีย รัฐสมรภูมิอีกรัฐ คาดว่าแผนเศรษฐกิจของเธอมีจุดมุ่งหมายช่วยชาวอเมริกันสร้างและรักษาความมั่งคั่ง

ผลสำรวจที่ผ่านมาชี้ว่า เกี่ยวกับด้านเศรษฐกิจ ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงให้ความสำคัญกับเรื่องงานและปัญหาค่าครองชีพสูง ส่งผลให้ในช่วงสัปดาห์นี้ ทั้งทรัมป์และแฮร์ริส ต่างงัดนโยบายเศรษฐกิจในการหาเสียงในรัฐสมรภูมิ 7 รัฐในปีนี้ ซึ่งรวมถึงรัฐจอร์เจีย ที่ทรัมป์ไปเปิดแผนเศรษฐกิจล่าสุดนี้ โดยจอร์เจียเป็น 1 ในศูนย์การผลิตรถยนต์ในสหรัฐฯ และยังมีท่าเรือขนาดใหญ่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ

ทรัมป์เคยมีความได้เปรียบแฮร์ริสด้านนโยบายเศรษฐกิจ แต่ผลสำรวจความนิยมล่าสุดที่เพิ่งเปิดเผยวันอังคารที่ 24 ก.ย. จัดทำโดยรอยเตอร์ส/อิปซอส พบว่า แฮร์ริสมีคะแนนตีตื้นขึ้นอย่างมากในด้านเศรษฐกิจ จนช่วงห่างคะแนนหดแคบลงมาก โดยทรัมป์นำแฮร์ริสเพียงร้อยละ 43 ต่อ 41เทียบกับที่ทรัมป์เคยนำแฮร์ริสถึง 11 จุด ในด้านเศรษฐกิจในผลสำรวจเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา