เสนอหยุดยิง : ผู้แทนจากเลบานอนเข้าร่วมการประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี ที่เปิดประชุมฉุกเฉินวิกฤตเลบานอนเมื่อวันพุธที่ 25 ก.ย. ขณะที่ฝรั่งเศสกับสหรัฐฯ กำลังเตรียมข้อเสนอหยุดยิงชั่วคราวในเลบานอนนาน 21 วัน

สหประชาชาติ/เทลอาวีฟ/เบรุต (เอพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์/อัล–จาซีรา) – ฝรั่งเศสยืนยันต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี ที่เปิดประชุมฉุกเฉินวิกฤตเลบานอน ว่า ฝรั่งเศสกับสหรัฐฯ กำลังเตรียมข้อเสนอหยุดยิงชั่วคราวในเลบานอนนาน 21 วัน ขณะที่กว่า 10 ประเทศสั่งอพยพพลเมืองของตนออกจากเลบานอนอย่างเร่งด่วน

คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี เปิดประชุมฉุกเฉินว่าด้วยวิกฤตเลบานอนเมื่อวันพุธที่ 25 ก.ย. โดย ฌอง-โนแอล บาร์โรต์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าวต่อที่ประชุมว่า ฝรั่งเศสกับสหรัฐฯ กำลังช่วยกันจัดเตรียมข้อเสนอหยุดยิงชั่วคราวในเลบานอนนาน 21 วัน ระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ เพื่อให้เวลาสำหรับการเปิดเจรจาที่กว้างขวางขึ้น บาร์โรต์เปิดเผยต่อไปว่า ขณะนี้ฝรั่งเศสและฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง กำลังหารือปัจจัยตัวแปรต่างๆ ทางการทูตที่จะนำพาให้ออกจากวิกฤตครั้งนี้ ภายใต้มติที่ 1701 ของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นเมื่อปี 2006 สำหรับรายละเอียดแผนการหยุดยิงดังกล่าวจะเปิดเผยต่อสาธารณะในเร็วๆ นี้ บาร์โรต์จะเดินทางไปเยือนเลบานอนสุดสัปดาห์นี้

ด้านสื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานเพิ่มโดยอ้างแหล่งข่าวหลายแหล่งว่า สหรัฐฯ และประเทศพันธมิตรต่างๆ ของอิสราเอล กำลังช่วยกันหาทางเลี่ยงไม่ให้เกิดสงครามเต็มรูปแบบในระดับภูมิภาคตะวันออกกลาง เจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนของสหรัฐฯ กำลังพยายามจะทำให้เกิดการหยุดยิงระยะสั้น เพื่อหยุดการปะทะระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ให้ได้ก่อนในเบื้องต้น โดยสหรัฐฯ กำลังเป็นหัวหอกเริ่มความพยายามทางการทูตครั้งใหม่ เพื่อยุติความขัดแย้งทั้งในฉนวนกาซาและในเลบานอนพร้อมๆ กัน โดยเชื่อม 2 ความขัดแย้งนี้ให้ได้รับการแก้ไขไปพร้อมกันในการริเริ่มทางการทูตครั้งใหม่นี้ อาศัยโอกาสนอกรอบการประชุมประจำปีเวทีสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ที่กำลังมีผู้นำจากทั่วโลกมารวมตัวกันเพื่อประชุมประจำปีที่สำนักงานใหญ่ยูเอ็นในนิวยอร์ก ถกรายละเอียดความพยายามทางการทูตครั้งใหม่ดังกล่าวนอกรอบการประชุมสมัชชาใหญ่

ในส่วนของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือเพนตากอน ระบุว่า การบุกภาคพื้นดินเลบานอนดูเหมือนว่าจะไม่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณใดๆ ว่า อิสราเอลจะบุกเลบานอน เพนตากอนเชื่อว่า ยังมีเวลาและพื้นที่สำหรับการทูต สหรัฐฯ ต้องการแก้ไขปัญหาด้วยการทูตและมุ่งมั่นที่จะสกัดไม่ให้เกิดสงครามเบ็ดเสร็จ

ขณะเดียวกัน อับบาส อารัคชิ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน กล่าวต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็น เตือนว่า อิหร่านจะไม่อยู่นิ่งเฉย หากเกิดสงครามในเลบานอน ภูมิภาคตะวันออกกลางกำลังอยู่ริมขอบของการเกิดหายนภัยเต็มรูปแบบ เนื่องจากความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ พร้อมกับกล่าวว่า อิสราเอลได้ก้าวข้ามเส้นแดงทั้งหมด เรียกร้องคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นจะต้องเข้ามาแทรกแซง เพื่อฟื้นสันติภาพและเสถียรภาพในตะวันออกกลาง

ในอีกด้านหนึ่ง ประเทศต่างๆ ที่เตือนพลเมืองของตนให้เดินทางออกจากเลบานอนเพิ่มเป็นเกือบ 10 ประเทศแล้ว ล่าสุด นายกรัฐมนตรี แอนโทนี อัลบาเนซี ของออสเตรเลีย เตือนให้พลเมืองออสเตรเลียในเลบานอนเดินทางออกจากเลบานอนทันที เพราะมีความเสี่ยงที่สนามบินเบรุตอาจปิด และความยากลำบากในการอพยพคนจำนวนมาก หากสถานการณ์ในเลบานอนเลวร้ายลงกว่านี้ และระบุว่า รัฐบาลออสเตรเลียได้เตรียมแผนเผชิญเหตุไว้แล้ว ซึ่งรวมถึงการอพยพทางทะเลด้วย ทั้งนี้ มีพลเมืองออสเตรเลียอยู่ในเลบานอนราว 15,000 คน

ก่อนหน้านี้เมื่อวันพุธที่ 25 ก.ย. นายกรัฐมนตรี เคียร์ สตาร์เมอร์ ของอังกฤษ เตือนพลเมืองตนในเลบานอนเดินทางออกไปทันที ทางรัฐบาลสหราชอาณาจักรกำลังส่งทหาร 700 นายไปยังไซปรัสซึ่งอยู่ใกล้กับฉนวนกาซา เพื่อช่วยอพยพพลเมืองสหราชอาณาจักรออกจากเลบานอน ทั้งนี้ นอกจากอังกฤษและออสเตรเลียแล้ว ประเทศที่เตือนพลเมืองของตนให้ออกจากเลบานอนยังมี รัสเซีย อิตาลี เบลเยียม อินเดีย มาเลเซีย และอียิปต์รวมทั้งหมด 8 ประเทศ

สำหรับยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดในเลบานอนจากการโจมตีของอิสราเอลในวันพุธที่ 25 ก.ย. อยู่ที่อย่างน้อย 72 ศพ หลังจากกองทัพอิสราเอลเปิดฉากทางอากาศครั้งใหญ่ต่อกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา และวันที่ 26 ก.ย. ก็ยังเดินหน้า
โจมตีต่อเนื่อง มีผู้เสียชีวิตอีก 13 ศพในคืนวันพุธต่อเนื่องเช้าวานนี้ เพิ่มยอดผู้เสียชีวิตจากการโจมตีเป็นเกือบ 600 ศพแล้ว