พ้นผิด : อิวาโอะ ฮาคามาดะ ชายชราชาวญี่ปุ่น วัย 88 ปี ปรากฏตัวด้านนอกศาลจังหวัดชิสึโอกะ หลังจากผู้พิพากษาศาลแห่งนี้ ตัดสินให้เขาพ้นผิดในคดีฆาตกรรม 4 ศพ ที่เกิดขึ้นเมื่อเกือบ 60 ปีก่อน หลังจากการพลิกคดีใหม่ เขาต้องเป็นนักโทษประหารมานาน 45 ปี กลายเป็นนักโทษที่รอการประหารยาวนานที่สุดในโลก

โตเกียว (รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์/เกียวโด) - ศาลญี่ปุ่นตัดสินให้นักโทษประหารชายชราอายุ 88 ปี พ้นผิดข้อหาฆาตกรรมที่เกิดขึ้นเมื่อเกือบ 60 ปีก่อน หลังจากการพลิกคดีใหม่ เขาต้องเป็นนักโทษประหารมานาน 45 ปี กลายเป็นนักโทษที่รอการประหารยาวนานที่สุดในโลก

ผู้พิพากษาศาลแขวงจังหวัดชิสึโอกะของญี่ปุ่น ตัดสินเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 ก.ย. ให้ อิวาโอะ ฮาคามาดะ ชายชราชาวญี่ปุ่น วัย 88 ปี พ้นผิดในคดีฆาตกรรม 4 ศพที่เกิดขึ้นเมื่อเกือบ 60 ปีก่อน ในการพลิกคดีของเขาขึ้นมาพิจารณาใหม่ ขณะที่ฮาคามาดะต้องอยู่ในสถานะนักโทษประหารมานาน 45 ปี ทำให้ชายชรารายนี้ กลายเป็นนักโทษประหารที่รอการประหารยาวนานที่สุดในโลก

สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ครอบครัวของ อิวาโอะ ฮาคามาดะ ไม่เคยละทิ้งความพยายามในการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมให้แก่เขา หลังจากที่เขาต้องรับกรรมจากคำตัดสินที่ผิดพลาดในอาชญากรรมที่เขาไม่ได้ก่อ คือการฆาตกรรม 4 ศพที่เกิดขึ้นในภาคกลางญี่ปุ่นเมื่อปี 1966 คดีของฮาคามาดะได้รับการพลิกคดีขึ้นมาตัดสินใหม่เมื่อปี 2014 หลังจากเกิดข้อสงสัยในหลักฐานที่ตัดสินว่าเขามีความผิด และยังใช้เวลาพิจารณาคดีนานถึง 10 ปี กว่าที่เขาจะได้รับการตัดสินว่าเป็นผู้บริสุทธิ์

ในเวลาที่ฮาคามาดะถูกกล่าวหาว่าก่อคดีฆาตกรรมนั้นเขาเป็นนักมวย ถูกกล่าวหาว่าก่อเหตุแทงหัวหน้างานและครอบครัวเสียชีวิตรวม 4 ศพ และเผาบ้านของเหยื่ออำพรางคดี ฮาคามาดะรับสารภาพในช่วงแรก แต่หลังจากนั้นเขากลับคำสารภาพและยืนยันว่าบริสุทธ์ในระหว่างถูกพิจารณาคดี แต่ก็ยังคงถูกตัดสินโทษประหารในปี 1968 คดีไปถึงชั้นศาลฎีกาพิพากษายืนในปี 1980

โนริมิจิ คุมาโมโตะ 1 ใน 3 ผู้พิพากษาศาลแขวงชิสึโอกะ ที่เคยตัดสินโทษประหารฮาคามาดะ เป็นผู้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาญี่ปุ่นเพื่อให้พลิกคดีเมื่อปี 2008 แต่คำร้องถูกปฏิเสธ กว่าจะสามารถพลิกคดีได้ก็ต้องรอถึงปี 2014 หลังจากที่ทนายความของฮาคามาดะสามารถพิสูจน์ได้ว่า ผลตรวจดีเอ็นเอบนชุดเปื้อนเลือดที่ถูกอ้างว่าเป็นชุดของฮาคามาดะนั้น ไม่ใช่เลือดของเขา

หลังจากได้รับการปล่อยตัว ฮาคามาดะได้อาศัยอยู่กับฮิเดโกะ พี่สาว ผู้ซึ่งอดทนต่อสู้มาอย่างยาวนานหลายสิบปี จนน้องชายได้รับความยุติธรรมในที่สุด