เบรุต/เทลอาวีฟ/วอชิงตัน (รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์/อัล-จาซีรา) - อิสราเอลยังคงโจมตีกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเช้าตรู่วานนี้เกิดระเบิด
ครั้งใหญ่ใกล้กับสนามบินนานาชาติ ไม่นานหลังจากเพิ่งมีเครื่องบินพาณิชย์ลงจอด

สื่อต่างประเทศรายงานว่า หลังจากที่เครื่องบินพาณิชย์จากนครดูไบลงจอดที่สนามบินในกรุงเบรุตได้ไม่นาน ก็ได้ระเบิดครั้งใหญ่ขึ้นด้านนอกของสนามบิน ทำให้เกิดเปลวไฟขนาดใหญ่และเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ขณะนี้ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นการโจมตีอะไรแต่พื้นที่แถบนั้นเป็นที่มั่นของกองกำลังฮิซบอลเลาะห์

ก่อนหน้านั้นตลอดทั้งคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา อิสราเอลได้โจมตีทางอากาศหลายจุดในเลบานอน ระบุว่า เป็นการทำลายศูนย์ข่าวกรอง ศูนย์ผลิตและเก็บอาวุธของฮิซบอลเลาะห์ ส่วนทางใต้ของเลบานอนซี่งได้นำกำลังทหารบุกเข้าไปทางภาคพื้นดินมาตั้งแต่วันจันทร์ เมื่อคืนนี้กองทัพอิสราเอลได้ส่งคำเตือนให้ประชาชนในหลายสิบเมืองและหมู่บ้านทางใต้ของอิสราเอลให้หลบหนีออกจากบ้าน ผ่านมาสองสัปดาห์ที่อิสราเอลเริ่มโจมตีฮิซบอลเลาะห์ ในเลบานอนครั้งใหญ่ มีผู้เสียชีวิตแล้วรวมกว่า 1,300 ศพ และทำให้มีผู้พลัดถิ่นฐานอีกกว่า 1 ล้านคน

ส่วนความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับความขัดแย้งโดยตรงระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านนั้น ขณะนี้ทั่วโลกยังคงวิตกว่าอิสราเอลจะตอบโต้อิหร่านที่ได้ยิงขีปนาวุธเกือบ 200 ลูกเข้าใส่เมื่อวันอังคารอย่างไร มีผู้คาดการณ์ว่าอิสราเอลอาจเลือกโจมตีอุตสาหกรรมน้ำมันของอิหร่าน ซึ่งเรื่องนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ได้เปิดเผยว่า เขากำลังหารือเรื่องนี้อยู่ แต่ไม่ได้ระบุว่า หารือกับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เองหรือหารือกับอิสราเอล จึงยิ่งทำให้เกิดความวิตกอย่างหนัก เพราะหากอิสราเอลโจมตีการผลิตน้ำมันของอิหร่าน ก็จะยิ่งทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงอาจทะลุ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อย่างไรก็ดี ไบเดนจะไม่คิดว่า ความขัดแย้งจะลุกลามกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ เขาคิดว่า สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่ก็มีความพยายามที่ต้องดำเนินการเพื่อหลีกเลี่ยงสงครามในตะวันออกกลาง

ขณะเดียวกัน อัล จาซีรา รายงานว่า อิหร่านได้เตือนสหรัฐฯ และอิสราเอลทางอ้อม ผ่านทางประเทศตัวกลางกาตาร์ ยืนยันอิหร่านไม่ได้ต้องการทำให้เกิดสงครามระดับภูมิภาคตะวันออกกลาง แต่อิสราเอลจะต้องถูกปราม อย่างจริงจัง ไม่เช่นนั้น อิหร่านจะใช้วิธีการตอบโต้แบบ “นอกแบบแผน” ถ้าหากว่าอิสราเอลขืนโต้กลับเอาคืนอิหร่าน ที่ยิงขีปนาวุธเกือบ 200 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่อิหร่านต่ออัล จาซีราเป็นพิเศษเมื่อวันที่ 4 ต.ค.