ผู้นำเกาหลีเหนือขู่ตอบโต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์

โซล - สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือ เคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า คิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือกล่าวว่า เกาหลีเหนือจะไม่ลังเลที่จะใช้กองกำลังที่มีอยู่ ซึ่งรวมถึงอาวุธนิวเคลียร์ หากว่ามีศัตรูพยายามจะใช้กำลังรุกรานอธิปไตยของเกาหลีเหนือ นายคิม ยังวิพากษ์ตำหนิประธานาธิบดี ยุน ซอก-ยอล ของเกาหลีใต้ที่กล่าวปราศรัยในพิธีสวนสนามเนื่องในวันกองทัพเกาหลีใต้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ข่มขู่จบระบอบเกาหลีเหนือหากเกาหลีเหนือพยายามจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ โดยคิมกล่าวว่า คำพูดดังกล่าวเป็นการแสดงให้เห็นว่าฝ่ายไหนกันแน่ที่กำลังทำลายความมั่นคงและสันติภาพในภูมิภาค เคซีเอ็นเอรายงานว่า คิม แสดงความเห็นดังกล่าวในระหว่างที่เขาเดินทางไปเยี่ยมฐานฝึกของหน่วยรบพิเศษเมื่อวันพุธที่ผ่านมา และเป็นครั้งแรกในรอบระยะเวลาประมาณ 2 ปี ที่เขากล่าวถ้อยคำรุนแรงเกี่ยวกับนายยุน

ตรวจหาลูกระเบิดสนามบินมิยาซากิ

โตเกียว - สำนักข่าวเกียวโด รายงานว่า เทตซูโอะ ไซโตะ รัฐมนตรีคมนาคมญี่ปุ่น กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวว่า จะตรวจสอบสนามบินมิยาซากิ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น โดยจะดำเนินการด้วยคลื่นแม่เหล็กรอบๆ แท็กซ่ีเวย์ นอกเหนือไปจากบริเวณรันเวย์ ของสนามบินมิยาซากิ ตั้งแต่วันจันทร์หน้าเป็นต้นไป การสำรวจจะไม่กระทบต่อเที่ยวบินแต่อย่างใด ก่อนหน้านี้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ระเบิดขนาดน้ำหนัก 250 กิโลกรัมของกองทัพสหรัฐเกิดระเบิดขึ้นที่สนามบินมิยาซากิ ทำให้เกิดหลุมและเศษยางมะตอยกระเด็นไปรัศมีกว่า 200 เมตร ซึ่งไปถึงบริเวณทางวิ่ง หรือ รันเวย์ เครื่องบินเพิ่งจะผ่านจุดเกิดเหตุก่อนหน้านั้นแค่ 2 นาที แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ สนามบินมิยาซากิ เคยเป็นสนามบินของกองทัพเรือญี่ปุ่น ก่อนหน้านี้เคยพบลูกระเบิดที่ยังไม่ระเบิด 2 ลูก เมื่อปี 2011 และ 2021 นอกจากนั้น ลูกระเบิดที่ยังไม่ระเบิดนี้ยังพบที่สนามบินเมืองเซนไดและเมืองนาฮาด้วย

ทรัมป์จะไม่ให้รัฐต่างๆห้ามรถใช้น้ำมัน

ดีทรอยต์ - โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผู้สมัครประธานาธิบดีพรรครีพับลิกัน กล่าวปราศรัยหาเสียงที่รัฐมิชิแกนว่า จะไม่มีรัฐใดในสหรัฐฯ สามารถห้ามการใช้รถยนต์หรือรถบรรทุกที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงได้ ถ้าหากเขาชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ และได้กลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง นอกจากนี้ เขาจะไม่อนุญาตให้ญี่ปุ่นซื้อเหล็กกล้าจากสหรัฐฯ อีกต่อไปด้วย ทั้งนี้ บริษัทเหล็กกล้าของสหรัฐฯ กำลังขัดแย้งกับญี่ปุ่น โดยเมื่อเดือนที่แล้ว (ก.ย.) บริษัท ยูเอส สตีลระบุว่า คณะอนุญาโตตุลาการมีคำตัดสินที่เป็นคุณต่อบริษัท นิปปอน สตีล ของญี่ปุ่น กรณีที่นิปปอน สตีลได้ซื้อยูเอส สตีลไปในราคา 14,900 ล้านดอลลาร์ (กว่า 490,000ล้านบาท)แต่ทางสหภาพแรงงานเหล็กกล้าของสหรัฐฯ (United Steelworkers) ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินดังกล่าว