วอชิงตัน/เตหะราน (เอพี/รอยเตอร์) - ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ แนะอิสราเอลเลือกทางอื่นมากกว่าโจมตีโครงสร้างพื้นฐานน้ำมันอิหร่าน หลังจากราคาน้ำมันพุ่ง ด้านที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจทำเนียบขาวระบุว่า สหรัฐฯกำลังติดตามอย่างใกล้ชิด ถึงผลกระทบของความไร้เสถียรภาพในตะวันออกกลางที่มีต่อราคาน้ำมัน
ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ แถลงวานนี้ (5 ต.ค.) ที่ทำเนียบขาวว่า หากเขาเป็นอิสราเอล เขาจะชั่งน้ำหนักเลือกทางเลือกอื่น ๆ มากกว่าโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำมันของอิหร่าน ไบเดนกล่าวต่อไปว่า เขาเชื่อว่า ขณะนี้อิสราเอลยังอยู่ระหว่างพิจารณาแต่ยังไม่ได้ข้อสรุป และยังไม่ได้ตัดสินใจว่า จะโต้กลับอิหร่านอย่างไร หลังอิหร่านยิงขีปนาวุธหลายร้อยลูกใส่อิสราเอลในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันตลาดโลกพุ่งขึ้นร้อยละ 5 ทันที หลังจากไบเดนเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า เขากำลังหารือกับอิสราเอลว่า อิสราเอลควรจะโต้กลับอิหร่านด้วยการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำมันของอิหร่านหรือไม่ ทำให้ไบเดนปรับคำพูดใหม่ในการแถลงล่าสุดวานนี้
พร้อมกันนี้ ไบเดนเปิดเผยด้วยว่า สหรัฐฯ กำลังพิจารณาจะออกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ด้วย เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวจะรวมถึงการลงโทษอิหร่านทางด้านน้ำมันหรือไม่ ไบเดนปฏิเสธที่จะตอบ ระบุว่ามาตรการคว่ำบาตรอิหร่านยังคงอยู่ในขั้นของการหารือพิจารณา
ด้าน ลาเอล เบรเนิร์ด ที่ปรึกษาเศรษฐกิจทำเนียบขาวและผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติสหรัฐฯ แถลงที่ทำเนียบขาววานนี้ (4) รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดถึงผลกระทบของความไร้เสถียรภาพในตะวันออกกลาง ที่มีต่อราคาน้ำมัน แต่เธอเชื่อว่า สหรัฐฯ จะยังคงได้เห็นราคาน้ำมันในระดับต่ำต่อไป และย้ำว่า รัฐบาลสหรัฐฯ มีแผนยุทธศาสตร์ที่มีประสิทธิผลมากพอ ในการจัดการปัญหาความผันผวนทางด้านภูมิยุทธศาสตร์ (geostrategic)
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งขึ้นไปแล้วร้อยละ 10 ตั้งแต่อิหร่านระดมยิงขีปนาวุธใส่อิสราเอลเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา
ขณะที่ อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน นำประชาชนทำพิธีละหมาดในกรุงเตหะรานด้วยตนเองครั้งแรกในรอบหลายปี ซึ่งโอกาสนี้ยังเป็นการปรากฏตัวต่อสาธารณะครั้งแรกของเขาด้วย ตั้งแต่อิหร่านยิงขีปนาวุธ 180 ลูกถล่มอิสราเอล คาเมเนอี กล่าวปราศรัยต่อฝูงชนจำนวนมากนอกมัสยิดใหญ่ โมซัลลาแห่งเตหะราน ระบุว่า การโจมตีต่ออิสราเอลแต่ละครั้งเป็นการรับใช้ภูมิภาคและมวลมนุษยชาติ และการโจมตีอิสราเอลด้วยขีปนาวุธของอิหร่านเมื่อไม่กี่วันมานี้ เป็นสิ่งที่ชอบธรรมและถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นการลงโทษขั้นต่ำสำหรับสิ่งที่เขาเรียกว่า การก่ออาชญากรรมของอิสราเอล
ผู้นำอิหร่าน ยังระบุด้วยว่า สหรัฐฯเลือกที่จะรักษาอิสราเอลไว้ด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจ โดยใช้ประเทศเป็นฐานนำเข้าและส่งออกสินค้าจากตะวันตก
ทั้งนี้ อิหร่านระดมยิงขีปนาวุธเข้าใส่อิสราเอลเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพื่อเป็นการตอบโต้การโจมตีของอิสราเอล สังหารฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ พันธมิตรของอิหร่านในกรุงเบรุต เมืองหลวงเลบานอนในวันศุกร์ สัปดาห์ที่แล้ว และการลอบสังหารอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำกลุ่มฮามาส ในกรุงเตหะราน เมื่อเดือนกรกฎาคม นอกจากนี้ อิหร่านยังกล่าวโทษอิสราเอลอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารฮานิเยห์ แต่อิสราเอลไม่ได้ออกมายอมรับหรือปฏิเสธ ขณะเดียวกัน อิสราเอลให้คำมั่นว่าจะตอบโต้อิหร่านที่ยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี