โตเกียว (รอยเตอร์/เอ็นเอชเค) – นายกรัฐมนตรี ชิเงรุ อิชิบะ ผู้นำคนใหม่ของญี่ปุ่น แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเป็นครั้งแรกหลังจากเข้ารับตำแหน่ง เตือนเอเชียตะวันออกอาจตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับยูเครนในวันหนึ่งข้างหน้า เนื่องจากยังมีความขัดแย้งกันในระดับภูมิภาค พร้อมทั้งเตือนปัญหาอัตราการเกิดต่ำในญี่ปุ่น

ชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น เตือนในการแถลงนโยบายครั้งแรกของเขาต่อรัฐสภาเมื่อวานนี้ (5 ต.ค.) ว่ายูเครนในวันนี้อาจกลายเป็นเอเชียตะวันออกในวันพรุ่งนี้ อิชิบะ อดีตรัฐมนตรีกลาโหมวัย 67 ปี กล่าวว่า เมื่อประกอบกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ประชาคมระหว่างประเทศเริ่มแตกแยกและเผชิญหน้ากันมากขึ้น ความสัมพันธ์ของญี่ปุ่นกับจีน เสื่อมทรุดลงในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เนื่องจากจีนยืนยันการประจำการทหารรอบดินแดนที่เป็นข้อพิพาทในภูมิภาค และญี่ปุ่นก็ส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงกับสหรัฐฯและพันธมิตร

ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เครื่องบินของกองทัพจีนรุกล้ำน่านฟ้าของญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ตามมาด้วยเรือรบของญี่ปุ่นลำหนึ่ง ได้แล่นผ่านช่องแคบไต้หวันเป็นครั้งแรกในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา

อิชิบะ สนับสนุนการตั้งกลุ่มพันธมิตรด้านการทหารในภูมิภาค ตามแนวทางขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ที่แถลงในวันอังคารที่ผ่านมาว่า สภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงในเอเชีย อยู่ในสถานการณ์ที่รุนแรงที่สุดตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2

นอกจากนี้ ญี่ปุ่น ซึ่งก็เป็นเช่นเดียวกับประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศ กำลังเผชิญกับวิกฤตประชากรที่มีแนวโน้มเกิดขึ้น เนื่องจากประชากรมีอายุมากขึ้น และอัตราการเกิดยังคงอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง โดยจากข้อมูลของธนาคารโลก พบว่า ญี่ปุ่นมีประชากรสูงอายุมากที่สุดในโลก รองจากประเทศเล็ก ๆ อย่างโมนาโก

เมื่อปีที่แล้ว อัตราการเกิด จำนวนบุตรโดยเฉลี่ยที่คาดว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะมีในชีวิต - อยู่ที่ 1.2 ซึ่งต่ำกว่าอัตรา 2.1 ที่จำเป็นต่อการรักษาจำนวนประชากร ทำให้อิชิบะเรียกสถานการณ์อัตราการเกิดว่าเป็น สถานการณ์ฉุกเฉินเงียบ พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า รัฐบาลจะส่งเสริมมาตรการต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนครอบครัว เข่นชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่น