11 ตุลาคม 2567 จากกรณีที่พายุเฮอร์ริเคนมิลตันพัดขึ้นฝั่งรัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ ด้วยความรุนแรงระดับ 3 ก่อนอ่อนกำลังเป็นระดับ 1 ทำให้มีฝนตกหนักที่สุดในรอบพันปี เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และทอร์นาโดรุนแรง  

อเลฮานโดร มาโยร์กาส รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐ แถลงสรุปว่า รัฐบาลกลางได้รายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเฮอริเคนมิลตันอย่างน้อย 11 ราย ส่วนใหญ่เกิดจากพายุทอร์นาโด พร้อมเรียกร้องให้พลเมืองปฏิบัติคำสั่งของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เนื่องจากสถานการณ์ยังอันตรายอยู่ แม้เฮอริเคนมิลตันอาจเคลื่อนตัวผ่านไปแล้ว แต่ทั้งสายไฟขาด น้ำท่วมสูง น้ำดื่มที่ไม่สามารถดื่มกินได้ และเศษซากปรักหักพังต่าง ๆ ล้วนอยู่ในสภาพที่เป็นอันตราย

สำหรับประชาชนในฟลอริดาที่อพยพไปก่อนหน้านี้ ได้รับคำเตือนไม่ให้เดินทางเข้าไปในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากเฮอริเคนมิลตัน หลังจากเฮอริเคนลูกนี้ ทำให้เกิดพายุทอร์นาโดหลายลูก น้ำท่วมและคลื่นพายุซัดฝั่ง หรือ สตอร์ม เซิร์จ 

โดยขณะนี้ บ้านเรือนและห้างร้านธุรกิจกว่า 3 ล้านแห่งยังไม่มีไฟฟ้าใช้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเดินลุยน้ำไปตามถนนที่ถูกน้ำท่วม เพื่อตรวจตามบ้านเรือนและช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากพายุ ท่ามกลางความมืด ในเมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ชายฝั่งตะวันตกของรัฐ น้ำประปาถูกตัดขาด เครนขนาดใหญ่ล้มใส่อาคารสำนักงานที่ตั้งของหนังสือพิมพ์แทมปาเบย์ไทม์ส และธุรกิจอื่นๆ เนื่องจากกระแสลมแรง

เฮอริเคนมิลตันพัดออกมหาสมุทรแอตแลนติกแล้วเมื่อวานนี้ หลังจากสร้างความเสียหายอย่างหนักตลอดเส้นทางที่เคลื่อนตัวผ่านทั่วรัฐฟลอริดา ซึ่งทำให้เกิดพายุทอร์นาโดหลายลูกด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีผู้เสียชีวิตและโครงสร้างพื้นฐานได้รับความเสียหาย แต่เฮอริเคนลูกนี้ ไม่ได้ก่อให้เกิดคลื่นสูงซัดฝั่งรุนแรงอย่างที่หวาดกลัวกัน

โดยพบว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับอาคารบ้านเรือนและทรัพย์สินต่างๆ  รวมทั้งเรือหลายลำขนาดต่างๆ กันที่ทั้งล่มจมน้ำและถูกคลื่นลมหอบขึ้นมาบนฝั่ง ถนนหนทางเต็มไปด้วยดินโคลน และบ้านและบริษัทธุรกิจกว่า 3 ล้านแห่งในรัฐฟลอริดาไม่มีไฟฟ้าใช้