ระทึก!!! ฮิซบอลเลาะห์ระดมยิงจรวดใส่อิสราเอล คาบเกี่ยวช่วงรมว.ต่างประเทศสหรัฐฯเดินทางเยือน
เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2567 สำนักข่าวอัลจาซีราของกาตาร์ รายงานข่าว Blinken arrives in Israel amid missiles in bid to revive ceasefire push ระบุว่า แอนโทนี บลิงเคน (Antony Blinken) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เดินทางเยือนประเทศอิสราเอล เพื่อหารือการหยุดยิงในพื้นที่ฉนวนกาซาและประเทศเลบานอน โดยถือเป็นการเยือนตะวันออกกลางครั้งที่ 11 ของเขา นับตั้งแต่สงครามในฉนวนกาซาเริ่มขึ้นเมื่อกว่า 1 ปีก่อน
อย่างไรก็ตาม นี่ถือเป็นการเยือนครั้งแรกของเขา นับตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อปลายเดือนที่แล้ว และความคาดหวังต่อความพยายามของเขาในการควบคุมการสู้รบก็ดูจะต่ำลง ซึ่งการเยือนอิสราเอลของ บลิงเคน ครั้งล่าสุดนี้ ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ระทึก เมื่อกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ระดมยิงขีปนาวุธพิสัยกลางมายังกรุงเทลอาวีฟ เมืองหลวงของอิสราเอล ทำให้ต้องปิดสนามบินเบน กูเรียนเป็นการชั่วคราว
ผู้แทนสหรัฐฯ มีกำหนดพบกับนายกรัฐมนตรีของอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู (Benjamin Netanyahu) และเจ้าหน้าที่ระดับสูง นอกจากจะพยายามเริ่มการเจรจาเรื่องการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์อีกครั้งแล้ว สหรัฐฯ ยังระมัดระวังเจตนาของพันธมิตรเกี่ยวกับการตอบโต้ทางการทหารต่อการโจมตีด้วยขีปนาวุธของอิหร่านเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2567 อีกด้วย
ความพยายามทางการทูตที่นำโดยสหรัฐฯ ล้มเหลวในการยุติสงครามกาซาที่กินเวลานานหนึ่งปีและความขัดแย้งที่ส่งผลกระทบระหว่างฮิซบอลเลาะห์และอิสราเอล ยังคงมีความกลัวว่าการสู้รบจะทวีความรุนแรงกลายเป็นสงครามระดับภูมิภาคเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ ที่มีความเชื่อมโยงกับอิหร่านในเลบานอนทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากเกิดการยิงตอบโต้กันข้ามพรมแดนเป็นเวลานานหนึ่งปี
ล่าสุดในเช้าของวันที่ 22 ต.ค. 2567 กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ อ้างว่าได้ยิงจรวดหลายลูกไปที่ฐานทัพทหารอิสราเอลสองแห่งใกล้กับกรุงเทลอาวีฟ รวมถึงฐานทัพเรือในเมืองไฮฟา ขณะที่อิสราเอลประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่กรุงเทลอาวีฟ และหน่วยบริการฉุกเฉินของประเทศรายงานว่ามีชายคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดที่ตกลงมาในย่านมาอาแกน ไมเคิล (Ma'agan Michael) ทางตอนเหนือ
ผู้สื่อข่าวอัลจาซีรา ซึ่งรายงานจากภาคใต้ของเลบานอน ระบุว่า เป็นครั้งแรกที่ตนเห็นฮิซบอลเลาะห์ใช้ขีปนาวุธพิสัยกลาง โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฮิซบอลเลาะห์กล่าวว่าพวกเขาจะเปลี่ยนกลยุทธ์เมื่อต้องจัดการกับอิสราเอล และมีแนวโน้มว่ากลุ่มนี้น่าจะยิงอาวุธระยะกลางลักษณะเดียวกันซ้ำแล้วซ้ำเล่าในอนาคต ขณะที่ความคืบหน้ากรณีอิสราเอลโจมตีเลบานอน บริเวณใกล้โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยราฟิก ฮารีรี ทางตอนใต้ของกรุงเบรุต เมื่อคืนวันที่ 21 ต.ค. 2567 กระทรวงสาธารณสุขของเลบานอนรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 13 ราย รวมทั้งเด็ก 1 ราย และบาดเจ็บอย่างน้อย 57 ราย
ด้านผู้สื่อข่าวที่ประจำการในจอร์แดน เชื่อว่า การเยือนอิสราเอลของ รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ จะโอกาสประสบความสำเร็จในเชิงการทูตนั้นต่ำมาก วาทกรรมของนายกฯ เนทันยาฮู และคนอื่นๆ มากมายในรัฐบาลของเขา รวมถึงฝ่ายค้านของอิสราเอลล้วนอยู่ในโทนของการท้าทาย ดังนั้น จึงเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากในช่วงเวลานี้ แต่อีกด้านหนึ่ง ยอสซี เบลิน (Yossi Beilin) อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม คาดหวังว่า การเยือนอิสราเอลของผู้แทนสหรัฐฯ จะช่วยให้เกิดการหยุดยิงได้ เพราะถึงเวลาแล้วที่จะต้องยุติสงครามนี้ หลังจากที่ทุกคนต้องจ่ายในราคาแพงมาก
ด้านเว็บไซต์ นสพ. The Guardian ของอังกฤษ รายงานข่าว Air raid sirens and explosions over Tel Aviv as Antony Blinken lands in Israel – video โดยเป็นการเผยแพร่คลิปวีดีโอเสียงสัญญาณเตือนภัยดังทั่วกรุงเทลอาวีฟของอิสราเอล เนื่องจากกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ระดมยิงขีปนาวุธโจมตีเขตชานเมือง กองทัพอิสราเอลกล่าวว่ามีการยิงจรวดเข้ามาประมาณ 20 ลูก โดย 5 ลูกมุ่งหน้าสู่ใจกลางอิสราเอล และ 15 ลูกมุ่งหน้าสู่ทางเหนือ และมีการพยายามสกัดกั้น แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับอันตราย ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ แอนโทนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางถึงอิสราเอล
ขอบคุณเรื่องจาก
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี