‘ปูติน’ ไม่ปฏิเสธเรื่องทหารเกาหลีเหนือเข้ารัสเซีย

คาซาน -ประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ไม่ได้ปฏิเสธคำกล่าวอ้างของสหรัฐฯ ที่ว่า มีหลักฐานบ่งชี้ว่าเกาหลีเหนือส่งทหาร 3,000 นายเข้าไปในรัสเซีย และมีความเป็นไปได้ที่ทหารเหล่านี้จะถูกส่งไปประจำการในยูเครน ซึ่งจะยิ่งทำให้สงครามยูเครนขยายวงอย่างมีนัยสำคัญ ผู้นำรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียจะตัดสินใจเองว่าจะดำเนินการความร่วมมือทางทหารกับเกาหลีเหนืออย่างไร พร้อมทั้งกล่าวหาว่าชาติตะวันเป็นฝ่ายที่ทำให้ความขัดแย้งในยูเครนขยายวงกว้างออกไป ด้านรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใตคาดการณ์ว่า เกาหลีเหนือจะส่งทหารเข้าไปในรัสเซียเป็นจำนวนถึง 12,000 คน ในอนาคตอันใกล้นี้ ส่วนใหญ่จะเป็นกองกำลังพิเศษ ทหารช่าง และทหารปืนใหญ่ ขณะที่หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ระบุว่า น่าจะมีทหารเกาหลีเหนือถูกส่งไปรัสเซียแล้ว 3,000 นาย ขณะเดียวกัน หน่วยข่าวกรองของยูเครนระบุว่า ทหารเกาหลีเหนือชุดแรกได้ถูกส่งเข้าไปประจำการในภูมิภาคเคิร์สก์ทางตะวันตกของรัสเซียแล้วเมื่อวันพุธที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ระบุจำนวน และว่าเกาหลีเหนือได้ส่งทหารเข้ามาในรัสเซียแล้วราว 12,000 นาย ในจำนวนนี้มีทหารระดับนายพล 3 นาย และนายทหารอีก 500 นายรวมอยู่ด้วย

ยืนยันการเสียชีวิตว่าที่ผู้นำฮิซบอลเลาะห์

เบรุต - หนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับในเลบานอนวานนี้แทบทุกฉบับ (25 ต.ค.) พาดหัวยืนยันการเสียชีวิตของ ฮาเชมซาฟิเอดดีน ว่าที่ผู้นำกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ ที่คาดว่าจะได้รับเลือกให้ขึ้นเป็นผู้นำกลุ่มต่อจาก ฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ที่ถูกลอบสังหารไปก่อนหน้านี้ โดยสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากการถูกการโจมตีทางอากาศของกองทัพอิสราเอล มีข้อมูลว่า ซาฟิเอดดีนได้บริหารกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ร่วมกับ นาอิม กอสเซม รองเลขาธิการกลุ่ม ตั้งแต่ที่อดีตผู้นำกลุ่มถูกลอบสังหาร ซึ่งก็คาดว่า ซาฟิเอดดีนจะได้รับการเลือกให้ขึ้นเป็นผู้นำกลุ่มคนใหม่ แม้ว่าจะไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการก็ตาม เขามีบทบาทสำคัญในการออกมาพูดแทนกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา รวมถึงเข้าร่วมพิธีสำคัญๆ ที่นาสรัลเลาะห์ ไม่สามารถไปร่วมได้เนื่องจากสาเหตุทางด้านความปลอดภัย

ไซโคลนดานาขึ้นฝั่งอินเดีย

นิวเดลี - สื่อท้องถิ่นในอินเดียรายงานว่า ไซโคลนดานาขึ้นฝั่งภาคตะวันออกของอินเดียแล้วเมื่อช่วงกลางดึกคืนวันพฤหัสบดี ต่อเนื่องเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น (25 ต.ค.) ด้วยความเร็วลม 100-110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและพายุรุนแรง พัดต้นไม้ใหญ่และเสาไฟฟ้าหักโค่น เกิดน้ำท่วมในบางพื้นที่ แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ทางการท้องถิ่นรัฐโอริสสา ทางตะวันออกของประเทศ สั่งปิดโรงเรียนและระงับเที่ยวบินทั้งเข้าและออกเมืองภุพเนศวรที่เป็นเมืองเอกของรัฐจนถึงเช้าวานนี้ และอพยพประชาชนมากกว่า 500,000 คนไปยังที่พักชั่วคราวก่อนไซโคลนเคลื่อนตัวมาถึง ส่วนยอดผู้เสียชีวิตพายุโซนร้อนจ่ามีพัดถล่มฟิลิปปินส์ เพิ่มเป็นอย่างน้อย 40 ราย ชาวบ้านอพยพกว่า 193,000 คน ส่วนใหญ่อยู่ในแคว้นบิโคล ซึ่งมีประชาชนอพยพกว่า 30,000 คน หลังจ่ามีทำให้เกิดฝนตกหนักน้ำท่วมใหญ่