วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์/ซีเอ็นเอ็น) - การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 5 พฤศจิกายนนี้ ยังยากที่จะคาดเดาว่าใครจะได้รับชัยชนะระหว่างคามาลา แฮร์ริส จากเดโมแครต และโดนัลด์ ทรัมป์ จากรีพับลิกัน เนื่องจากยังมีคะแนนที่สูสีกันมาก

การแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังคู่คี่สูสีอย่างมาก ในการสำรวจความคิดเห็นทั่วประเทศครั้งสุดท้ายของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น ก่อนการหย่อนบัตรเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ โดยการสำรวจความคิดเห็น ซึ่งจัดทำโดย SSRS พบว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งร้อยละ 47 สนับสนุนรองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต และร้อยละ 47 เท่ากันสำหรับการสนับสนุนอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน

ผลการสำรวจความคิดเห็นของซีเอ็นเอ็น พบว่า การแข่งขันระหว่างแฮร์ริสและทรัมป์สูสีกันมากตลอดช่วงการหาเสียงสั้น ๆ ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งส่วนใหญ่ร้อยละ 48 สนับสนุนแฮร์ริส และร้อยละ 47 หนุนทรัมป์ ซึ่งเกือบจะเท่ากับผลสำรวจใหม่นี้ และผลสำรวจหลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ถอนตัวออกจากการแข่งขันเมื่อช่วงฤดูร้อน และหันไปสนับสนุนแฮร์ริส พบว่าผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งร้อยละ 49 สนับสนุนทรัมป์ ขณะที่ แฮร์ริสได้รับเสียงสนับสนุนร้อยละ 46

ส่วนผลการสำรวจความคิดเห็นของรอยเตอร์/อิปซอส แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจบางอย่างในแนวร่วมที่ทรัมป์ และแฮร์ริส พึ่งพาในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยสำหรับทรัมป์ ข่าวดีมาจากกลุ่มชายเชื้อสายฮิสแปนิก หรือกลุ่มคนที่พูดภาษาสเปน ส่วนแฮร์ริสยังคงมีคะแนนนิยมนำอยู่ แต่เธอนำอยู่ประมาณ 2 จุดเท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าคะแนนนำ 19 จุดของโจ ไบเดน ในช่วงเวลานี้ของการเลือกตั้งปี 2020

สำหรับแฮร์ริส ก็มีข่าวดีได้รับคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นในหมู่ผู้หญิงผิวขาว ขณะที่ทรัมป์ยังมีคะแนนนิยมนำในกลุ่มนี้ แต่ยังได้รับความนิยมน้อยมากจากกลุ่มชายผิวขาว คะแนนนิยมของทรัมป์เพิ่มขึ้นประมาณ 3 จุด เมื่อเทียบกับ 12 จุดในการเลือกตั้งปี 2020 ทั้งหมดนี้มีความสำคัญมาก เนื่องจากเป็นการแข่งขันที่สูสีมาก การแข่งขันนี้อาจต้องตัดสินชี้ขาดกับการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้ โดยเฉพาะในรัฐสวิงสเตท หรือรัฐสมรภูมิ