กรีนเบย์/ชาร์ลอตต์/วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์ส/ซีเอ็นเอ็น) - โดนัลด์ ทรัมป์ และ คามาลา แฮร์ริส คู๋ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ เดินหน้าหาเสียงในรัฐสมรภูมิ หรือ สวิงสเตท ก่อนถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ไม่ถึงสัปดาห์ ขณะที่จำนวนผู้ใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบนี้สูงเป็นประวัติการณ์
เหลืออีก 5 วันก่อนถึงวันชี้ชะตาเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน สองผู้สมัครต่างมุ่งเน้นหาเสียงในรัฐสมรภูมิ หรือสวิง สเตท ที่ยังเหลืออยู่ โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม คามาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต ไปหาเสียงที่เมืองกรีนเบย์ รัฐวิสคอนซิน กล่าวหา ทรัมป์คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน กรณีที่ปราศรัยต่อที่หาเสียงในรัฐวิสคอนซินว่า เขาจะปกป้องผู้หญิงในฐานะประธานาธิบดี ไม่ว่าพวกเธอจะชอบหรือไม่ก็ตาม โดยจะปกป้องพวกเธอจากผู้อพยพที่เข้ามา จะปกป้องพวกเธอจากประเทศต่างๆ ที่ต้องการโจมตีเราด้วยขีปนาวุธและสิ่งอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งแฮร์ริส กล่าวกับนักข่าวว่า เธอรู้สึกว่า ถ้อยคำที่ว่า “ชอบหรือไม่ก็ตาม” เป็นการล่วงละเมิด และคิดว่า มันเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจมากสำหรับผู้หญิง ที่ทรัมป์แสดงความไม่เข้าใจถึงสิทธิและความสามารถในการตัดสินใจเกี่ยวกับชีวิตและร่างกายของตัวเอง
ส่วนผู้สนับสนุนของทรัมป์ที่ไปฟังคำปราศรัยของเขาในรัฐนอร์ทแคโรไลนา ปฏิเสธถ้อยแถลงของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ที่กล่าวถึงพวกเขาว่าเป็นขยะ โดยยืนยันว่า พวกเขาไม่ใช่ขยะแต่เป็นคนอเมริกันเหมือนกับทุกคน ตอบโต้คำกล่าวของไบเดนกับกลุ่มชาวฮิสแปนิกเมื่อวันอังคาร ว่าขยะสิ่งเดียวที่กำลังลอยอยู่ คือผู้สนับสนุนทรัมป์และตัวทรัมป์ ถ้อยคำรุนแรงของไบเดน เกิดขึ้นหลังจากนักแสดงตลก โทนี ฮินช์คลิปป์เรียกรัฐเปอร์โตริโก ดินแดนส่วนหนึ่งของสหรัฐว่า “เกาะขยะลอยน้ำ” ระหว่างการหาเสียงที่เมดิสัน สแควร์ การ์เดน ในนครนิวยอร์ก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ขณะที่เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ทั้งแฮร์ริสและทรัมป์เดินสายหาเสียงในหลายรัฐสวิง สเตท โดย แฮร์ริสไปที่ฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนาตั้งแต่ตอนเที่ยง จากนั้นจะไปยังเมืองรีโน รัฐเนวาดา และจะปิดท้ายที่เมืองลาสเวกัสในช่วงค่ำ ส่วนทรัมป์อยู่ที่รัฐนิวเม็กซิโกตั้งแต่ช่วงบ่าย จากนั้นจะไปที่เฮนเดอร์สัน รัฐเนวาดาช่วงเย็น ปิดท้ายเมืองเกลนเดล รัฐแอริโซนา
ขณะเดียวกัน ข้อมูลจากห้องปฏิบัติการการเลือกตั้งของมหาวิทยาลัยฟลอริดา พบว่า มีชาวอเมริกันผู้มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 61.9 ล้านคน ไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ล่วงหน้าก่อนวันเลือกตั้งจริงในวันที่ 5 พฤศจิกายน ทั้งการเดินทางไปลงคะแนนเสียงด้วยตนเอง และลงคะแนนทางไปรษณีย์ ถือเป็นจำนวนการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้ามากเป็นประวัติการณ์ หลายรัฐสมรภูมิสร้างสถิติใหม่ของการมีผู้ออกไปลงคะแนนเสียงล่วงหน้ามากเป็นประวัติการณ์เช่นกัน โดยในการลงคะแนนเลือกล่วงหน้าของการเลือกตั้งครั้งที่แล้วเมื่อปี 2020 พบว่า ไบเดนได้คะแนนเสียงมากกว่าทรัมป์ จนช่วยให้ไบเดนคว้าชัยชนะเข้าทำเนียบขาวได้สำเร็จ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี