ดีทรอยต์ (เอพี/รอยเตอร์/ซีเอ็นเอ็น) – โดนัลด์ ทรัมป์ ระบุ เราจะทำให้เกิดสันติภาพในตะวันออกกลาง ขู่เก็บภาษี 100 เปอร์เซนต์เต็มค่ายรถเจ้าของไครสเลอร์ หากย้ายงานออกจากสหรัฐฯ ไปเม็กซิโก ด้านอัยการสูงสุดรัฐแอริโซนากำลังสอบสวนว่า ทรัมป์ละเมิดกฎหมายแอริโซนาหรือไม่ กรณีพูดโจมตี ลิซ เชนีย์ บุตรสาว ดิ๊ก เชนีย์ ควรไปโดนกระสุนในสนามรบ ในการหาเสียงที่แอริโซนา
โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครประธานาธิบดีพรรครีพับลิกัน กล่าวขณะหาเสียงที่รัฐมิชิแกน 1 ในรัฐสมรภูมิเมื่อวันศุกร์ (1 พ.ย.) ว่า เขากำลังจะนำสันติภาพให้เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง หลังหารือกับนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ทรัมป์ระบุด้วยว่า ชุมชนมุสลิมและชาวเลบานอนนิยมในตัวเขาและเขาคาดว่า จะได้รับเสียงสนับสนุนของ 2 กลุ่มนี้ รัฐมิชิแกน 1 ในรัฐสมรภูมิ มีชาวมุสลิมและชาวอเมริกันเชื้อสายอาหรับหลายร้อยคนที่มีครอบครัวอยู่ในฉนวนกาซาและในเลบานอน
ทรัมป์ยังขู่จะเก็บภาษีศุลกากรค่ายรถ "สเตลลันทิส" (Stellentis) 100 เปอร์เซนต์เต็ม หากย้ายงานออกจากสหรัฐฯ ไปเม็กซิโก ทั้งนี้ สเตลลันทิสเป็นเจ้าของไครสเลอร์ ถูกฝ่ายทรัมป์กล่าวหาว่า กำลังส่งรถที่ผลิตโดยไครสเลอร์ไปยังเม็กซิโก
ขณะเดียวกัน ทรัมป์ยังคงพูดโจมตี ลิซ เชนีย์ บุตรสาว ดิ๊ก เชนีย์ อดีตผู้สมัครประธานาธิบดีว่า โง่เง่า หลังจากที่เขากล่าวโจมตีลิซ เชนีย์ว่า สมควรไปเจอกับลูกกระสุนในสนามรบจริง ๆ ในการหาเสียงที่รัฐแอริโซนาเมื่อวันพฤหัสบดี (31 ต.ค.) ลิซ เชนีย์ เป็นสมาชิกคนสำคัญพรรครีพับลิกัน แต่ตำหนิติเตียนทรัมป์อย่างหนัก และได้หันไปสนับสนุนแฮร์ริสและไปช่วยแฮร์ริสหาเสียง
ในกรณีนี้ อัยการสูงสุดรัฐแอริโซนา ซึ่งเป็นเดโมแครต ระบุว่า สำนักงานอัยการสูงสุดแอริโซนากำลังสอบสวนว่า ทรัมป์ละเมิดกฎหมายรัฐแอริโซนาหรือไม่ ที่ไปพูดระหว่างหาเสียงที่แอริโซนา ว่า ลิซ เชนีย์สมควรไปโดนกระสุนในสนามรบ คำพูดดังกล่าวทำให้ทรัมป์ถูกตำหนิอย่างหนัก แต่ทางทีมหาเสียงทรัมป์แก้ตัวว่า ที่ทรัมป์พูดนั้น เพียงหมายตำหนิ ลิซ เชนีย์ เป็นคนกระหายสงครามเท่านั้น
ขณะที่ คามาลา แฮร์ริส คู๋แข่งซึ่งอยู่ที่รัฐมิชิแกนเช่นกัน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ใครก็ตามที่ต้องการเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ซึ่งใช้ถ้อยคำที่รุนแรงเช่นนี้ ควรถูกตัดสิทธิ์และไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นประธานาธิบดี พร้อมกับกล่าวด้วยว่า ทรัมป์จะเล็งเป้าหมายคนที่เขาเห็นเป็นศัตรูทันที ถ้าหากเขาชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ และได้เป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง
ส่วนการเลือกตั้งล่วงหน้าประธานาธิบดีสหรัฐฯ จบลงเมื่อวันศุกร์ (1 พ.ย.) เป็นวันสุดท้าย 4 วันก่อนถึงวันเลือกตั้ง 5 พฤศจิกายน มีผู้ออกไปใช้สิทธิ์ล่วงหน้ากว่า 66 ล้านคน อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ ด้านการเลือกตั้งสหรัฐฯ เริ่มออกมาเตือนว่า อาจต้องใช้เวลาหลายวันหลังวันเลือกตั้งประธานาธิบดี 5 พฤศจิกายน กว่าจะรู้ผลเลือกตั้งประธานาธิบดีขั้นสุดท้าย เนื่องจากการแข่งขันที่สูสีกันมากระหว่างทรัมป์กับแฮร์ริส โดยเฉพาะถ้าหากต้องนับคะแนนใหม่ในบางพื้นที่สำคัญ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี