คัมแบ๊ก‘ปธน.สหรัฐฯ’สมัย2
‘ทรัมป’ผงาด!
ขึ้นเวทีประกาศชัยชนะยิ่งใหญ่
ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่47
ลั่นนำประเทศสู่ความรุ่งเรือง
โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน มีแนวโน้มชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ เอาชนะ คามาลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่ง ผู้นำสหรัฐฯ อีกครั้ง หลังจากต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน ขณะที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาที่เดิมเป็นของพรรคเดโมแครต และมีแนวโน้มจะยังสามารถครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้ต่อไป
สถานีโทรทัศน์ Fox News ของสหรัฐฯ เป็นสื่อใหญ่ช่องแรกที่ฟันธงว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน ชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ เอาชนะ คามาลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ อีกครั้งหลังจากต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน ทางด้านสื่ออเมริกันอื่นๆ ยังไม่มีสำนักไหนชี้ชัดว่าใครชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี
แต่สำนักข่าว BBC รายงานล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น. วันพุธตามเวลาบ้านเรา (6 พ.ย.) ชี้ว่าทรัมป์ได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้ง (electoral vote) แล้ว 266 คะแนน ต้องการอีกเพียง 4 คะแนนเท่านั้น เพื่อให้ได้ 270 คะแนน ซึ่งจะทำให้เป็นผู้ชนะ และได้คะแนนประชาชน (popular vote) 69,659,111 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 51.1 ส่วนแฮร์ริสมีคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 219 คะแนน และได้คะแนนประชาชน 64,386,414 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 41.2
ด้านทรัมป์กล่าวกับบรรดาผู้สนับสนุนเขาที่มารวมตัวกันที่ศูนย์ประชุมปาล์มบีช เคาน์ตี้ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ ในรัฐฟลอริดาว่า อเมริกาได้ให้อาณัติทางการเมืองที่ทรงพลังและไม่เคยมีมาก่อนแก่เขา พร้อมยืนยันว่า เขาจะนำยุคทองกลับมายังสหรัฐอเมริกาและจะซ่อมแซมทุกสิ่ง
ทรัมป์ อยู่บนเวทีพร้อมด้วยวุฒิสมาชิก เจดี แวนซ์ คู่หูชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ผู้นำพรรครีพับลิกันและสมาชิกในครอบครัวของทรัมป์ ในระหว่างกล่าวปราศรัย ทรัมป์ยังได้กล่าวยกย่อง อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลก เจ้าของเทสลา และสเปซเอ็กซ์ ที่ทุ่มเงินราว 120 ล้านดอลลาร์ในการสนับสนุนการหาเสียง ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะแต่งตั้งนายมัสก์ให้เป็นประธานคณะกรรมาธิการด้านประสิทธิภาพของรัฐบาล
ส่วนรองประธานาธิบดีแฮร์ริส ยังไม่ได้กล่าวกับผู้สนับสนุนที่มารวมตัวกันที่มหาวิทยาลัยฮาเวิร์ด ในกรุงวอชิงตัน ดีซี ซึ่งตอนนี้งานแถลงถูกยกเลิกและบรรดาผู้สนับสนุนต่างเดินทางกลับกันหมดแล้ว ท่ามกลางบรรยากาศเงียบเหงา ทีมงานหาเสียงแฮร์ริสแจ้งกับประชาชนเมื่อช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐฯ ว่า เธอจะกล่าวปราศรัยในช่วงเช้าวันพุธ โดยขณะนี้การนับคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดียังไม่เสร็จสิ้น ขณะที่ บารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากเดโมแครต โพสต์ X ว่าผลการนับคะแนนยังไม่เสร็จสิ้น 100% จึงยังไม่อาจยืนยันผลแพ้ชนะได้ ขอให้ทุกฝ่ายใจเย็นและรอผลการนับคะแนนให้แล้วเสร็จทั้งหมดเสียก่อน
สำนักวิจัยเอดิสัน รีเสิร์ช ที่ติดตามผลการนับคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีระบุว่า ทรัมป์ได้ชัยชนะในรัฐสมรภูมิที่รัฐนอร์ทแคโรไลนา เพนซิลเวเนีย และจอร์เจีย และยังมีคะแนนำในรัฐสมรภูมิอื่น ๆ 4 รัฐที่เหลือ คือรัฐเนวาดา แอริโซนา มิชิแกน และวิสคอนซิน นอกจากนั้นแล้ว เขายังมีทำคะแนนได้ดีทั่วประเทศ ดีกว่าเมื่อครั้งการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2020 เขาได้คะแนนเสียงสนับสนุนจากกลุ่มฮิสแปนิก กลุ่มชาวอเมริกันที่มีรากฐานมาจากประเทศที่ใช้ภาษาสเปน ที่ตามปกติแล้วจะสนับสนุนพรรคเดโมแครต กลุ่มครัวเรือนผู้ที่มีรายได้น้อย ที่ได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นนับตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2020
ทั้งนี้ หากผลการเลือกตั้งเป็นไปตามแนวโน้มที่ออกมา ทรัมป์ วัย 78 ปี ประธานาธิบดีคนเดียวที่ถูกฟ้องถอดถอนออกจากตำแหน่งถึง 2 ครั้ง และเป็นอดีตประธานาธิบดีคนแรกที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดทางอาญา จะกลายเป็นประธานาธิบดีคนแรกเช่นกันที่ชนะการเลือกตั้งไม่ติดต่อกันในรอบมากกว่า 100 ปี หลังจากที่เขาไม่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีที่แล้ว
ด้านผู้นำของประเทศต่าง ๆ ในสหภาพยุโรปต่างแสดงความยินดีที่นายทรัมป์ ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้ง โดยประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส โพสต์ข้อความทางแพลตฟอร์ม X แสดงความยินดี และกล่าวว่าพร้อมที่จะทำงานร่วมกันอย่างที่เคยทำมาเป็นเวลา 4 ปี ในช่วงที่ทรัมป์เป็นผู้นำสหรัฯ นายกรัฐมนตรี เคียร์ สตาร์เมอร์ อังกฤษ โพสต์ X แสดงความยินดีต่อทรัมป์เช่นกัน และกล่าวว่า พร้อมที่จะทำงานร่วมกับทรัมป์ในช่วงหลายปีข้างหน้าที่กำลังมาถึง เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี เปรโดร ซานเชส ของสเปน กล่าวผ่านแอปพลิเคชัน X แสดงความยินดีต่อชัยชนะของทรัมป์ ในการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ และเขามีความมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับทรัมป์ ในความสัมพันธ์ทางยุทธศาสตร์และความเป็นหุ้นส่วนที่แข็งแรง
นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล กล่าวผ่านทางแอปพลิเคชั่น X แสดงความยินดีต่อทรัมป์ โดยกล่าวชื่นชมว่าเป็นการกลับคืนสู่ทำเนียบขาวที่จะเป็นประวัติศาสตร์ และว่าการกลับมารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ อีกครั้งเป็นการเริ่มต้นใหม่สำหรับอเมริกาและยืนยันพันธกรณีในฐานะความเป็นพันธมิตรที่ยิ่งใหญ่ระหว่างอิสราเอลกับอเมริกา ส่วน มาร์ค รุตเตอ เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต กล่าวผ่าน X ว่า เขาเพิ่งแสดงความยินดีต่อทรัมป์ที่ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี และการเป็นผู้นำของทรัมป์จะทำให้นาโตแข็งแกร่ง และตั้งตารอที่จะทำงานร่วมกับทรัมป์อีกครั้งเพื่อผลักดันสันติภาพ
ขณะเดียวกัน การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 34 คน จากทั้งหมด 100 คน หรือราว 1 ใน 3 ที่จัดขึ้นพร้อมกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการพบว่า พรรครีพับลิกันได้ที่นั่งในวุฒิสภาแล้ว 51 ที่นั่ง ขณะที่พรรคเดโมแครตได้ 41 ที่นั่ง เท่ากับพรรครีพับลิกันได้ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาชุดใหม่ในปีหน้า จากชุดปัจจุบันที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก 47 ที่นั่ง ร่วมกับ สว. อิสระ 4 ที่นั่ง รวมเป็น 51 ที่นั่ง ส่วนพรรครีพับลิกันครอง 49 ที่นั่ง
นอกจากนี้ พรรครีพับลิกันยังมีแนวโน้มที่จะสามารถรักษาเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร หรือ สว.ได้ต่อไป โดยได้แล้ว 196 ที่นั่ง จากที่มีการเลือกตั้งหมดทั้งสภา 435 ที่นั่ง ขณะที่พรรคเดโมแครตได้ 167 ที่นั่ง เทียบกับสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบัน ที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก 220 ที่นั่ง และพรรคเดโมแครตครอง 212 ที่นั่ง
ทั้งนี้ หากพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากทั้ง 2 สภาก็จะเป็นผลดีต่อทรัมป์ หากเขาชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดี แต่จะเป็นผลเสียต่อแฮร์ริส หากเธอชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี