วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์ส/ซีเอ็นเอ็น/บีบีซีนิวส์) - คามาลา แฮร์ริส ออกมายอมรับความพ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปีนี้ต่อคู่แข่งอย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ อย่างเป็นทางการแล้ว และเรียกร้องให้บรรดาผู้สนับสนุนของเธอยอมรับผลการเลือกตั้ง อย่าเพิ่งท้อหรือหมดหวัง แต่ให้สู้ต่อไป ด้านประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ เตรียมเปิดทำเนียบขาวให้ทรัมป์เข้าไปพูดคุยเรื่องถ่ายโอนอำนาจ
หลังจากที่เก็บตัวเงียบนานเกิน 24 ชั่วโมง นับตั้งแต่เริ่มทราบผลการนับคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งยืนยันแล้วว่า โดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะได้อย่างเด็ดขาดล่าสุด รองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต ก็ออกมากล่าวปราศรัยต่อบรรดาผู้สนับสนุนจำนวนมาก ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ซึ่งเธอเป็นศิษย์เก่าเมื่อช่วงค่ำวันพุธที่6 พ.ย. แฮร์ริสบอกว่า เธอขอยอมรับความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ และขอให้บรรดาผู้สนับสนุนของเธอยอมรับความพ่ายแพ้ด้วยเช่นกัน เพราะนี่เป็นหนทางแห่งประชาธิปไตย แม้ว่าหลายคนอาจผิดหวังที่ผลการเลือกตั้งไม่เป็นอย่างใจที่ต้องการ แต่ขอให้ทุกคนอย่าหมดหวัง ท้อแท้หมดกำลังใจ แต่ให้ถกแขนเสื้อสู้กันต่อไป เพราะทุกคนยังมีพลังและเรี่ยวแรงที่จะสร้างความแตกต่างได้ในอนาคตแฮร์ริสย้ำว่า การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของอเมริกานั้นมีค่าเสมอ อย่าได้ผิดหวังหรือมองว่าตอนนี้โลกกำลังสูญสลายเพราะบางครั้ง การต่อสู้ก็ต้องใช้เวลา หรือไม่ได้หมายความว่าเราจะชนะไปตลอด
ก่อนหน้านั้น แฮร์ริสได้โทรศัพท์พูดคุยกับทรัมป์ เพื่อแสดงความยินดีที่ชนะเลือกตั้งเมื่อช่วงเย็นวานนี้ และได้หารือถึงความสำคัญเรื่องการถ่ายโอนอำนาจอย่างราบรื่น และการเป็นประธานาธิบดีของชาวอเมริกันทุกคน ด้านทีมงานหาเสียงของทรัมป์ระบุในแถลงการณ์เกี่ยวกับการโทรศัพท์พูดคุยกันครั้งนี้ว่า ทรัมป์ยอมรับรองประธานาธิบดีแฮร์ริสถึงความเข้มแข็ง ความเป็นมืออาชีพ และความพากเพียรตลอดช่วงหาเสียง และผู้นำทั้งสองเห็นพ้องต้องกันถึงความสำคัญของความสามัคคีในประเทศ
ทั้งนี้ ทรัมป์คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันอังคารที่ 5 พ.ย.ได้อย่างเด็ดขาดแน่นอนแล้ว หลังจากคว้าชัยได้ในรัฐสมรภูมิ หรือ สวิง สเตท ที่มีการแข่งขันสูงได้ถึงรวดเดียว 5 รัฐ คือนอร์ทแคโรไลนา เพนซิลเวเนีย จอร์เจีย วิสคอนซิน และมิชิแกน ได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้ง(electoral vote) 294 คะแนน เกินกว่า 270 คะแนน ซึ่งจะทำให้เป็นผู้ชนะ ทำให้ทรัมป์จะได้กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกสมัยอย่างแน่นอนแล้ว ทรัมป์ยังได้คะแนนประชาชน (popular vote) 72,652,827 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 50.8 ขณะที่รัฐ 2 รัฐสมรภูมิ หรือสวิงส เตท ที่เหลือ ซึ่งยังนับคะแนนไม่เสร็จสิ้น คือเนวาดา แลแอริโซนาเขาก็ยังมีคะแนนนำอีกด้วย สร้างประวัติศาสตร์การคัมแบ๊กกลับมาครองตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ได้อย่างยิ่งใหญ่ ส่วนแฮร์ริสได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 226 คะแนนและได้คะแนนประชาชน 67,941,881 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 47.5
ล่าสุด รัฐบาลปัจจุบันของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้มีจดหมายเชิญให้ทรัมป์ เข้าไปหารือเรื่องการถ่ายโอนอำนาจบริหารให้เป็นไปอย่างราบรื่น แล้วยังมีรายงานว่า ทีมงานของทรัมป์และพรรครีพับลิกันเริ่มจัดวางกำหนดการทำงานก่อนเข้ารับตำแหน่งในพิธีสาบานตนวันที่20 มกราคมปีหน้าแล้ว รวมไปถึงตำแหน่งสำคัญๆในรัฐบาลที่มีการคาดหมายกันว่า อีลอน มัสก์มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก ที่ได้หนุนหลังทรัมป์อย่างสุดตัวในการหาเสียง อาจได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีหรือมีการตั้งตำแหน่งใหม่ให้เพื่อดูแลเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารตามที่เจ้าตัวเคยเสนอเอาไว้
ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญหลายคนออกมาวิเคราะห์สาเหตุปัจจัยที่ทำให้แฮร์ริสพ่ายแพ้การเลือกตั้ง โดย จูเลียน เซลิเซอร์ อาจารย์ประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกัน มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน มองว่า ปัญหาใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งไม่ได้เกิดจากตัวแฮร์ริส แต่เกิดจากการที่เธอเป็นผู้สมัครจากรัฐบาลที่ไม่ได้รับความนิยมจากประชาชนอย่างมาก นอกจากนี้ ยังเป็นผลจากการที่สังคมอเมริกันยังคงมีกระแสแบ่งแยกเพศและเชื้อชาติอยู่ แม้ว่าทีมหาเสียงของเธอได้พยายามหาเสียงอย่างหนักและค่อนข้างไร้ที่ติ
ด้าน วิลเลียม ฮาวเวลล์ นักรัฐศาสตร์การเมืองอเมริกัน มหาวิทยาลัยชิคาโกมองว่า ปัญหาอยู่ที่การเลือกตัวผู้สมัครของพรรคเดโมแครตที่ตอนแรกสนับสนุนประธานาธิบดีคนปัจจุบันโดยไม่มีผู้เสนอตัวแข่งขัน แต่แล้วกลับทอดทิ้งเขาในนาทีสุดท้าย แล้วหันไปเลือกรองประธานาธิบดีที่แม้ว่าเคยเสนอตัวเป็นตัวแทนพรรคในการเลือกตั้งปี 2563 แต่ก็ไม่เป็นที่รู้จักเท่าใดนัก และไม่มีฐานเสียงชัดเจน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี