วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์ส/ซีเอ็นเอ็น) - โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะไม่เชิญ นิกกี เฮลีย์ อดีตคู่แข่งเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ และ ไมค์ พอมเพโอ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลาง หรือซีไอเอ เข้าร่วมในรัฐบาลชุดใหม่ของเขาผลนับคะแนนล่าสุดชี้ คว้าชัยชนะในรัฐแอริโซนา ทำให้เขากวาดชัยชนะในทั้ง 7 รัฐสมรภูมิ หรือสวิง สเตท
โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เผยผ่านทรูธ โซเชียล ซึ่งเป็นสื่อสังคมออนไลน์ที่เขาตั้งขึ้นเมื่อวันสาร์ที่ 9 พ.ย. ว่า เฮลีย์และพอมเพโอจะไม่มีชื่อร่วมในคณะรัฐมนตรีทรัมป์สมัยที่ 2 ที่อยู่ระหว่างการจัดตั้ง แต่ขอชื่นชมที่เคยทำงานร่วมกันมาก่อน และอยากขอบคุณทั้งสองคนที่ทำงานเพื่อบ้านเมือง ขณะที่ชื่อของบุคคลที่จะได้เข้าร่วมรัฐบาลชุดใหม่ของทรัมป์เริ่มมีให้เห็นเพิ่ม ในจำนวนนี้ รวมถึง อีลอน มัสก์, โรเบิร์ต เคเนดี จูเนียร์ และ จอห์น แรตคลิฟฟ์ ที่เชื่อว่าน่าจะได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการซีไอเอคนใหม่
เฮลีย์ วัย 52 ปี อดีตผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนา เคยดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติปี 2560-2561 ในสมัยรัฐบาลทรัมป์ เธอวิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์อย่างหนักในช่วงที่เธอสมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ก่อนถอนตัวเมื่อต้นปีนี้และหันมาสนับสนุนทรัมป์แทน ส่วนพอมเพโอ วัย 60 ปี เคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการซีไอเอปี 2560-2561 และอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศปี 2561-2564 ในสมัยรัฐบาลทรัมป์
ด้านประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ส่งเทียบเชิญทรัมป์เข้าพบหารือกันที่ห้องทำงานรูปไข่ ในทำเนียบขาวกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในวันพุธที่ 13 พ.ย. เป็นการเชิญผู้ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีเข้าทำเนียบขาวตามธรรมเนียมปฏิบัติทางการเมืองระหว่างประธานาธิบดีผู้กำลังจะหมดวาระและผู้ที่เป็นว่าที่ประธานาธิบดี แม้ตอนที่ทรัมป์แพ้เลือกตั้งให้กับไบเดน เมื่อปี 2563 ทรัมป์จะไม่ได้ทำตามประเพณี ไม่เชิญไบเดนมาพบหารือที่ทำเนียบขาวก็ตาม
ขณะเดียวกัน สื่อในสหรัฐฯ รายงานตรงกันว่า ทรัมป์กวาดชัยชนะในทั้ง 7 รัฐสมรภูมิ หรือสวิง สเตท เมื่อผลการนับคะแนนในรัฐแอริโซนาซึ่งเป็นรัฐสุดท้ายชี้ว่า เขาชนะ คามาลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้ง(electoral vote) ในรัฐแอริโซนา 11 คะแนนเนื่องจากชนะคะแนนประชาชน (popularvote) ทำให้คาดว่าจะได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้งทั่วประเทศทั้งหมด 312 คะแนนเกินเกณฑ์ผู้ชนะ 270 คะแนนไปอย่างมาก และทิ้งห่างแฮร์ริสที่คาดว่าจะได้ 226 คะแนน รัฐแอริโซนาเป็นรัฐสมรภูมิแห่งสุดท้ายที่เพิ่งนับคะแนนเสร็จ หลังจากทรัมป์กวาดชัยชนะไปแล้วในรัฐสมรภูมิ 6 แห่งก่อนหน้านี้ คือ มิชิแกน เพนซิลเวเนีย จอร์เจีย นอร์ทแคโรไลนา วิสคอนซิน และเนวาดา ทำให้ทรัมป์กวาดคะแนนคณะผู้เลือกตั้งในรัฐสมรภูมิไปหมดทั้ง 93 คะแนน จากทั้งหมด 538 คะแนนทั่วประเทศ
ส่วนการเลือกตั้งวุฒิสมาชิก หรือ สว. 43 คนจากทั้งหมด 100 คน พรรครีพับลิกันกลับมาครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา โดยได้ไปแล้ว 52 ที่นั่ง เดโมแครตเหลือ 44 ที่นั่ง ส่วนอีก 2 ที่นั่ง เป็นของผู้สมัครอิสระ ขณะที่เหลืออีก 2 รัฐ คือ แอริโซนาและเพนซิลเวเนียยังนับคะแนนไม่เสร็จ ส่วนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ สส. ทั้ง 435 ที่นั่ง ผลเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ พรรครีพับลิกันได้ สส.แล้ว 213 ที่นั่ง เหลืออีก 5 ที่นั่งก็จะได้ครองเสียงข้างมากเด็ดขาดในสภาผู้แทนฯ ขณะที่ยังเหลือการนับคะแนน สส.อีก 19 ที่นั่ง ส่วนพรรคเดโมแครตได้ สส.แล้ว 205 ที่นั่ง
ทั้งนี้ หลังจากที่รัฐสภาสหรัฐฯ ประกาศรับรองผลคะแนนคณะผู้เลือกตั้งในวันที่ 6 มกราคม 2568 ทรัมป์และ เจดีแวนซ์ คู่ชิงรองประธานาธิบดีของทรัมป์ จะสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม 2568
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี