วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) - โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศตั้งเพิ่มอีกหลายตำแหน่งใน “ครม.ทรัมป์ 2.0” ทาบทาม สว.มาร์โก รูบิโอ เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ ดึง สส. เอลลีส สเตฟานิก ดำรงตำแหน่งทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ เลือก สส. ไมค์ วอลซ์ เป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ และโยก คริสตี โนเอม ผู้ว่าการรัฐเซาท์ดาโกตา ให้มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเดินหน้าแต่งตั้งบุคคลที่เห็นว่าเหมาะสมให้มาดำรงตำแหน่งสำคัญๆ ในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของเขา หรือ “ครม.ทรัมป์ 2.0” ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งในเดือนมกราคมปีหน้าเพิ่มอีกหลายคน เริ่มจากจะทาบทามวุฒิสมาชิก มาร์โก รูบิโอ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้รูบิโอ นักการเมืองที่เกิดที่รัฐฟลอริดา เป็นคนเชื้อสายลาตินคนแรกที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ สำหรับรูบิโอวัย 53 ปี เป็นผู้ที่มีแนวคิดสายเหยี่ยวมากที่สุดในบรรดารายชื่อที่ทรัมป์พิจารณาคัดเลือกให้มาเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ เขาเป็นผู้ที่สนับสนุนนโยบายต่างประเทศแข็งกร้าวกับประเทศที่เป็นปรปักษ์ในทางภูมิรัฐศาสตร์กับสหรัฐฯ เช่น จีน อิหร่านและคิวบา
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า ทรัมป์ ได้เลือก ไมค์ วอลซ์ สส. รีพับลิกันรัฐฟลอริดา ให้เป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ วอลซ์ เคยเป็นนายทหารยศพันเอกในกองกำลังพิทักษ์ดินแดนแห่งชาติ และสมาชิกหน่วยรบพิเศษกรีนเบเรต์ (Green Baret) ของกองทัพบกสหรัฐฯ เขาเป็นผู้ที่มีแนวคิดแข็งกร้างกับจีน ตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ เป็นตำแหน่งที่ทรงอิทธิพลและไม่ต้องขอความเห็นชอบจากวุฒิสภาเรื่องตัวบุคคลที่จะดำรงตำแหน่ง โดยจะมีหน้าที่บรรยายสรุปในประเด็นเรื่องความมั่นคงแห่งชาติและประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ
ทรัมป์ยังตกลงที่จะเลือก คริสตี โนเอม ผู้ว่าการรัฐเซาท์ดาโกตา ให้มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีความมั่นคงแห่งมาตุภุมิโนเอม ซึ่งขณะนี้กำลังดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐเซาท์ดาโกตาเป็นสมัยที่ 2 เป็นเวลา 4 ปี หลังจากที่เธอได้รับเลือกตั้งอย่างถล่มทลายในปี 2022 เคยปฏิเสธที่จะออกคำสั่งบังคับให้ประชาชนทั่วทั้งรัฐต้องสวมหน้ากากอนามัยในช่วงการระบาดของเชื้อโควิด-19 และเคยถูกมองว่าเป็นตัวเลือกที่จะมาเป็นผู้สมัครรองประธานาธิบดีคู่กับทรัมป์ด้วย สำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีความมั่นคงแห่งมาตุภุมิ มีหน้าที่รับผิดชอบในหลากหลายๆ ด้านตั้งแต่การปกป้องชายแดน การเข้าเมืองไปจนถึงการรับมือกับภัยพิบัติและหน่วยงานลับของรัฐ หรือ “ยูเอสซีเครตเซอร์วิส” (U.S. Secret Service) ที่มีหน้าที่คุ้มกันความปลอดภัยให้กับบุคคลสำคัญของประเทศ
ในส่วนของตำแหน่งทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติคนใหม่ ทรัมป์เสนอชื่อ เอลลีส สเตฟานิก สส.รัฐนิวยอร์ก ให้ดำรงตำแหน่งนี้ เนื่องจากเห็นว่าสเตฟานิก เป็นนักสู้ที่มีความแข็งแกร่ง อดทนและเฉลียวฉลาดอย่างยิ่ง สเตฟานิก วัย 40 ปี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาเวิร์ด เป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับทรัมป์ ด้านสหประชาชาติ ได้เตรียมวางแผนสำหรับการกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้งของทรัมป์ ท่ามกลางการคาดคะเนว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ของทรัมป์จะลดเงินสนับสนุนของสหรัฐฯ ที่ให้กับสหประชาชาติ รวมถึงจะลดการผูกพันกับสหประชาชาติลงด้วย
ทั้งนี้ สเตฟานิก จะเข้ารับหน้าที่ต่อจาก ลินดา โทมัส-กรีนฟีลด์ นักการทูตมากประสบการณ์ของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ที่ได้รับการแต่งตั้งในยุครัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี