15 พฤศจิกายน 2567 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่ 47 เสนอให้ 'โรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี จูเนียร์' (RFK Jr.) เป็นรัฐมนตรีสาธารณสุข ทั้งๆ ที่เขานั้นเป็นผู้ต่อต้านวัคซีนและข้อมูลทางการแพทย์ 

โดยว่าที่ประธานาธิบดี ได้ประกาศเสนอให้ 'โรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี จูเนียร์' เป็นรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นกระทรวงที่มีงบประมาณสูงถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 105 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 22.8 ของงบประมาณปี 2567 อีกทั้งยังกำกับดูแลหน่วยงานสำคัญ เช่น สำนักงานอาหารและยาหรือเอฟดีเอ ,ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อหรือซีดีซี อีกด้วย 

การเสนอชื่อเข้ามานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีสาธารณสุของ 'โรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี จูเนียร์' ทำให้ผู้ที่อยู่ในวงการแพทย์ และสาธารณสุข หรือแม้แต่สมาชิกพรรครีพับลิกันแสดงการต่อต้าน  เพราะ'โรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี จูเนียร์' มีจุดยืนที่ผิดหลักการทางการแพทย์และมีความเชื่อแปลกๆ เช่นการเชื่อว่าสารฟลูออไรด์ที่อยู่ในน้ำประปาทำให้กระดูกเปราะและก่อมะเร็ง ทั้งที่สมาคมการแพทย์ชี้ว่า ฟลูออไรด์ในน้ำประปาช่วยลดปัญหาฟันผุได้ดีมาก นอกจากนี้เขายังเป็นผู้ต่อต้านวัคซีน โดยอ้างผิดๆ ว่าเป็นสาเหตุทำให้เด็กป่วยออทิสติก เขาได้เผยแพร่ข้อมูลผิดๆ เกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 ทำให้มีคนเชื่อและไม่ยอมฉีดวัคซีนมากมาย

ซึ่งเมื่อข่าวนี้ได้แพร่ออกไปนั้นคนในแวดวงการแพทย์หลายแห่ง ได้ระบุว่า 'โรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี จูเนียร์' เป็นอันตรายต่อระบบสาธารณสุขและสามารถก่ออันตรายถึงขั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตได้ ดังที่เขาได้แพร่ข่าวปลอมเรื่องวัคซีนโรคหัดในประเทศซามัว จนทำให้ผู้คนไม่ยอมไปรับวัคซีน ต่อมาเกิดการระบาดจนมีผู้ติดเชื้อกว่า 50,000 คนและเสียชีวิตไปเกือบร้อยคน

'โรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี จูเนียร์' หรือ 'อาร์เอฟเค จูเนียร์' (RFK Jr.)อายุ 70 ปี เป็นทายาทตระกูลดังทางการเมืองของสหรัฐฯ ซึ่งเขานั้นเป็นหลานชายของ'จอห์น เอฟ เคนเนดี' หรือ เจเอฟเค (JFK)ประธานาธิบดีที่ถูกลอบสังหารในปี 2506 โดย'โรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี จูเนียร์' ได้ลงสมัครชิงทำเนียบขาวในปีนี้ด้วยโดยไม่สังกัดพรรค แต่เขาได้ถอนตัวออกไปและหันไปสนับสนุนทรัมป์ชิงประธานาธิบดีแทน เพื่อแลกกับตำแหน่งรัฐบาล