เปรูปูพรมแดงต้อนรับสี จิ้นผิง

ลิมา - รัฐบาลเปรูปูพรมแดงและจัดทหารกองเกียรติยศและกองทหารม้า ต้อนรับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีนอย่างยิ่งใหญ่ที่กรุงลิมา หลังจากประธานาธิบดีสีเดินทางมาถึงเมื่อ
วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (14 พ.ย.) ในการเยือนเปรู เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปก ครั้งที่ 31 ซึ่งเปรูเป็นเจ้าภาพ พร้อมกันนี้ ประธานาธิบดีสียังเยือนเปรูอย่างเป็นทางการด้วย ตามคำเชิญของประธานาธิบดี ดินา โบลูอาร์เต ของเปรู และจะเข้าร่วมพิธิเปิดท่าเรือน้ำลึกขนาดใหญ่แห่งใหม่ ที่จีนลงทุนสร้างในเปรู ซึ่งหลังการเดินทางมาถึงกรุงลิมา ประธานาธิบดีโบลูอาร์เตของเปรู เดินมาต้อนรับประธานาธิบดีสีด้วยตนเอง และเดินนำประธานาธิบดีสีเดินไปบนพรมแดง เข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล ที่จัดงานเลี้ยงต้อนรับประธานาธิบดีสีอย่างอลังการ ด้านหนังสือพิมพ์รายงาน “เอล เปรูอาโน” ของรัฐบาลเปรู ได้ตีพิมพ์บทความของประธานาธิบดีสี ซึ่งเขียนว่า เราจำเป็นต้องสร้างและบริหารท่าเรือชานเคย์ร่วมกัน ทำให้ “จากชานเคย์สู่เซี่ยงไฮ้” กลายเป็นเส้นทางแห่งความมั่งคั่งอย่างแท้จริง เพื่อส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันของจีนกับเปรู และจีนกับลาตินอเมริกา

พายุเรียงแถวถล่มฟิลิปปินส์

มะนิลา/ไทเป - สำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติฟิลิปปินส์ รายงานว่า ซูเปอร์ไต้ฝุ่นอูซางิหรือในฟิลิปปินส์เรียกว่าโอเฟลอ่อนกำลังลงเรื่อยๆ หลังถล่มภาคเหนือฟิลิปปินส์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (14 พ.ย.) ในขณะที่เป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่น โดยขึ้นฝั่งที่เมืองบักเกา จังหวัดคากายันของฟิลิปปินส์ ล่าสุด อูซางิได้เคลื่อนออกจากภาคเหนือฟิลิปปินส์ไปแล้ว ขณะนี้กำลังมุ่งหน้าไปไต้หวัน แต่พายุอีกลูกโซนร้อนหม่านหยี่ หรือในฟิลิปปินส์เรียกว่า เปปิโต (Pepito) ขณะนี้อยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก จ่อถล่มกรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ รวมไปถึงหลายเมืองในภาคตะวันออกฟิลิปปินส์ด้วย โดยคาดว่า หม่านหยี่จะทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่นถล่มฟิลิปปินส์ในวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) นี้ จะเป็นพายุลูกที่ 6 ในรอบไม่ถึง 1 เดือน และลูกที่ 16 ของฟิลิปปินส์ในปีนี้ สำหรับอูซางิเป็นไซโคลนลูกที่ 15 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในปีนี้ และเป็นพายุลูกที่ 5 ติดต่อกันในเวลาไม่ถึง 1 เดือนที่ผ่านมา ด้านสำนักสภาพอากาศกลางไต้หวัน ประกาศเตือนไต้ฝุ่นอูซางิจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน ก่อนจะพัดขึ้นฝั่งทางใต้ของไต้หวันในเช้าวันนี้ (16 พงย.) เตือนอูซางิจะส่งผลกระทบรุนแรงที่สุดงในระยะ 24 ชั่วโมงตั้งแต่เที่ยงวันศุกร์ (15 พ.ย.) เป็นต้นไป

ไฟไหม้บ้านพักคนชราสเปน

มาดริด - เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นที่บ้านพักคนชราที่ตั้งอยู่ในเมืองบิลลาฟรังกา เดล เอโบร ภูมิภาคอารากอน ทางตอนเหนือของสเปน ช่วงเช้ามืดวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น (15 พ.ย.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 10 ราย หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเมืองซาราโกซา ที่อยู่ห่างจากออกไปราว 35 กิโลเมตร รีบรุดมายังที่เกิดเหตุทันที จากนั้นก็ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไหม้เอาไว้ได้ เจ้าหน้าที่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 10 ราย เป็นผู้ที่อยู่บ้านพักคนชราทั้งหมดหรือไม่ โดยมีรายงานว่า มีผู้อาศัยอยู่ในบ้านพักคนชราแห่งที่เกิดเหตุทั้งหมด 82 คน นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการสูดดมควันไฟเข้าไป และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ทั้งหมดอยู่ระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้นั้น ยังคงอยู่ในระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียด