ผู้ว่าฯ‘นิวยอร์ก’เตรียมเก็บภาษีรถติด คาดบังคับใช้มกราคม’68 ฝ่ายต่อต้านเรียกร้อง‘ทรัมป์’ช่วยยกเลิก
16 พ.ย. 2567 นสพ.The New York Times สหรัฐอเมริกา เสนอรายงานพิเศษ What to Know About Congestion Pricing ว่าด้วย เคธี โฮชุล (Kathy Hochul) ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก เร่งผลักดันนโยบาย “ภาษีรถติด” หรือการเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ใช้รถยนต์ส่วนบุคคลเดินทางเข้าไปในพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น โดยผู้ว่าฯ โฮชุล เปิดเผยเมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2567 ว่า แผนดังกล่าวเคยถูกระงับไปในเดือน มิ.ย. 2567 เนื่องจากไม่ต้องการให้เมืองที่กำลังฟื้นตัวจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ได้รับผลกระทบ และล่าสุดได้กลับมาเตรียมการต่ออีกครั้ง
สำหรับอัตราค่าผ่านทางที่จะเก็บนั้นอยู่ที่ 9 เหรียญสหรัฐ หรือราว 306 บาท ลดลงจากเดิมที่เคยตั้งไว้ที่ 15 เหรียญสหรัฐ หรือราว 510 บาท โดยรายได้ในส่วนนี้จะยังคงนำไปใช้เพื่อระดมทุน 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 5.1 แสนล้านบาท ให้กับสำนักงานขนส่งมวลชนมหานครเพื่อซ่อมแซมและปรับปรุงเครือข่ายขนส่งสาธารณะของมหานครนิวยอร์ก
แผนการจัดเก็บค่าผ่านทางที่แก้ไขใหม่จะเร่งดำเนินการ และจะนำเสนอต่อคณะกรรมการสำนักงานควบคุมระบบขนส่งมวลชนมหานครนิวยอร์ก (MTA) คาดว่าโครงการจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงต้นเดือน ม.ค. 2568 โดยอาจเริ่มได้ประมาณวันที่ 5 มกราคม โดยทางการของรัฐนิวยอร์กได้ใช้เงินไปแล้วกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1.7 หมื่นล้านบาท เพื่อให้โครงการนี้ดำเนินไปได้ โดยส่วนใหญ่ใช้ไปกับระบบกล้องและซอฟต์แวร์เก็บค่าผ่านทางที่พร้อมใช้งาน
สำนักงานบริหารทางหลวงกลาง ซึ่งอยูภายใต้กระทรวงคมนาคมของสหรัฐฯ จะต้องลงนามอนุมัติโครงการนี้เช่นกัน รวมถึงฝ่ายบริหารด้านคมนาคมและการขนส่งของรัฐและเมือง ผู้ว่าฯ โฮชุล กล่าวว่า รัฐนิวยอร์กกำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี โจ ไบเดน (Joe Biden) ทั้งนี้ มีรายงานว่า ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก พยายามจะผลักดันแผนการนี้ให้สำเร็จก่อนที่ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เนื่องจากทรัมป์เคยกล่าวว่าจะหากตนมีอำนาจจะยกเลิกการเก็บภาษีรถติด
ทั้งนี้ ผู้ใช้ยานพาหนะส่วนบุคคลส่วนใหญ่จะต้องเสียค่าธรรมเนียมเพื่อเข้าไปในเขตที่มีการจราจรคับคั่ง ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ถนนสาย 60 ไปจนถึงย่านแบตเตอรี่ พื้นที่ดังกล่าวประกอบด้วยจุดหมายปลายทางและย่านที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมือง เช่น ย่านโรงละคร ไทม์สแควร์ เฮลส์คิทเช่น เชลซี และโซโห ค่าผ่านทางจะแตกต่างกันไปตามช่วงเวลาของวัน โดยช่วงพีคจะมีค่าผ่านทางสูงสุด คือ 05.00-21.00 น. ในวันธรรมดา และ 09.00-21.00 น. ในวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่นอกเวลาดังกล่าว ค่าผ่านทางจะถูกลงร้อยละ 75 เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนหันไปเดินทางในช่วงที่การจราจรเบาบาง
การจราจรบนถนนแฟรงคลิน ดี. รูสเวลต์ และบนทางหลวงฝั่งตะวันตกตามแนวเขตจะไม่ถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจราจรคับคั่ง ตราบใดที่ผู้ขับขี่ยังอยู่บนทางหลวง ค่าผ่านทางจะถูกเรียกเก็บส่วนใหญ่ผ่านระบบอีซี่พาส (E-ZPass) ซึ่งผู้ขับขี่จำนวนมากใช้ชำระค่าผ่านทางบนสะพาน อุโมงค์ และทางหลวงอยู่แล้ว จุดตรวจจับอิเล็กทรอนิกส์ถูกติดตั้งไว้ที่ทางเข้าและทางออกจากเขตเก็บค่าผ่านทาง แต่ผู้ขับขี่ที่ไม่มีเครื่องอ่าน E-ZPass จะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในอัตราที่สูงกว่า โดยจะถูกระบุตัวตนผ่านกล้องที่ถ่ายรูปป้ายทะเบียนรถ และจะได้รับใบแจ้งหนี้ทางไปรษณีย์
รถยนต์โดยสารส่วนใหญ่จะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมวันละ 9 เหรียญสหรัฐ หรือราว 306 บาท เพื่อเข้าสู่เขตที่มีการจราจรคับคั่งในชั่วโมงเร่งด่วน และ 2.25 เหรียญสหรัฐ หรือราว 76.5 บาท ในช่วงเวลาอื่นๆ ส่วนมอเตอร์ไซค์จะจ่าย 4.5 เหรียญสหรัฐ หรือราว 153 บาทในช่วงเวลาเร่งด่วน และ 1.05 เหรียญสหรัฐ หรือราว 35.7 บาท ในช่วงนอกชั่วโมงเร่งด่วน เนื่องจากเป็นพาหนะที่มีขนาดเล็กกว่าและก่อให้เกิดการจราจรคับคั่งน้อยกว่า
ส่วนรถบรรทุกเชิงพาณิชย์ขนาดเล็กและรถบัสบางคันจะจ่ายค่าผ่านทาง 14.4 เหรียญสหรัฐ หรือราว 490 บาทในช่วงเวลาเร่งด่วน และ 3.6 เหรียญสหรัฐ หรือราว 122.5 บาท ในช่วงเวลาอื่นๆ ขณะที่รถบรรทุกขนาดใหญ่และรถทัวร์จะต้องจ่าย 21.6 เหรียญสหรัฐ หรือราว 734.5 บาท ในช่วงเวลาเร่งด่วน และ 5.4 เหรียญสหรัฐ หรือราว 184 บาทในช่วงนอกชั่วโมงเร่งด่วน
ผู้โดยสารที่โดยสารแท็กซี่และยานพาหนะให้เช่าอื่นๆ รวมถึงบริการรถยนต์นั่งเรียกผ่านแอปพลิเคชั่น จะต้องเสียค่าธรรมเนียมต่อเที่ยวเพิ่มเติมในค่าโดยสารทุกครั้งในเขตที่มีการจราจรคับคั่ง โดยอยู่ที่ 75 เซ็นต์สำหรับแท็กซี่ รถแท็กซี่สีเขียว หรือรถยนต์สีดำ และ 1.5 เหรียญสหรัฐ หรือ 51 บาท สำหรับรถเรียกผ่านแอปฯ เช่น Uber หรือ Lyft สำหรับแต่ละเที่ยวการเดินทางทั้งเข้าไปยัง , จากภายใน หรือผ่านเขตที่มีการจราจรคับคั่ง สำหรับขับขี่ยานพาหนะบางประเภทที่บรรทุกคนพิการและรถฉุกเฉินที่ได้รับอนุญาตจะไม่ถูกเรียกเก็บเงิน
ผู้อยู่อาศัยบางคนภายในเขตที่มีการจราจรคับคั่งอาจมีสิทธิ์ได้รับเครดิตภาษีของรัฐเท่ากับจำนวนค่าผ่านทาง ผู้ขับขี่ที่มีรายได้น้อยจะสามารถลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลดร้อยละ 50 สำหรับการเดินทางทั้งหมดไปยังเขตที่มีการจราจรคับคั่งหลังจาก 10 เที่ยวแรกในหนึ่งเดือน ขณะที่ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน ผู้ขับขี่ที่เข้าสู่แมนฮัตตันผ่านอุโมงค์ 4 แห่งที่ต้องเสียค่าผ่านทางอยู่แล้ว ได้แก่ ลินคอล์น ฮอลแลนด์ ฮิวจ์ แอล. แครี และควีนส์-มิดทาวน์ จะได้รับเครดิตที่เสนอให้สูงสุด 3 เหรียญสหรัฐ หรือราว 102 บาท จากค่าธรรมเนียมการจราจรคับคั่งรายวัน
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า ย้อนไปในช่วงก่อนที่ผู้ว่าฯ โฮชุล จะระงับแผนการเก็บภาษีรถติดไว้ชั่วคราว ในเวลานั้นมีกระแสต่อต้านการเก็บภาษีรถติดอย่างรุนแรง ซึ่งรวมถึง ฟิล ดี. เมอร์ฟีย์ (Philip D. Murphy) ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์ แม้จะสังกัดพรรคเดโมแครตเช่นเดียวกับผู้ว่าฯ โฮชุลก็ตาม ตลอดจนสหภาพแรงงานที่มีอิทธิพล และนักการเมืองบางรายในนิวยอร์ก โดยฝ่ายที่คัดค้านภาษีรถติดได้ยื่นฟ้องคดีไปแล้วอย่างน้อย 9 คดี ซึ่งยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณาและผู้ต่อต้านบางส่วนยังคงต่อสู้คดีต่อไป ทำให้ศาลอาจมีคำสั่งระงับหรือเลื่อนโครงการออกไปได้
ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ในเมืองนิวยอร์กและชานเมืองใกล้เคียง ซึ่งสังกัดพรรครีพับลิกันรวม 5 คน ได้เขียนจดหมายถึง โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน ซึ่งเพิ่งชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีและเป็นว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ เรียกร้องให้ช่วยระงับแผนเก็บภาษีรถติด หากแผนดังกล่าวยังไม่เกิดขึ้นก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่ง ทรัมป์ก็สามารถสั่งให้กระทรวงคมนาคมของรัฐบาลกลางระงับการอนุมัติแผนดังกล่าวได้
และแม้ว่าแผนดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับแล้ว ทรัมป์ก็ยังอาจพยายามเพิกถอนการอนุมัติจากรัฐบาลกลางหรือขู่ว่าจะระงับเงินทุนของรัฐบาลกลางสำหรับนครนิวยอร์กได้ ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและการคมนาคม แม้ว่ามาตรการใดมาตรการหนึ่งอาจต้องขึ้นสู่ชั้นศาลก็ตาม
ขอบคุณเรื่องจาก
https://www.nytimes.com/2024/11/14/nyregion/congestion-pricing-nyc.html
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี