21 พ.ย. 2567 สำนักข่าวอัลจาซีราของกาตาร์ รายงานข่าว Sharp rise recorded in landmine casualties in 2023, warns report ระบุว่า กลุ่ม Landmine and Cluster Munition Monitor ซึ่งเป็นองค์กรภาคประชาสังคม (NGO) ระหว่างประเทศที่ทำงานด้านเฝ้าระวังการใช้ทุ่นระเบิดในสงครามหรือสถานการณ์ความขัดแย้งต่างๆ ทั่วโลก เผยแพร่รายงานเมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2567 ที่ชี้ว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมา จำนวนผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดและเศษระเบิดจากสงครามทั่วโลกพุ่งสูงขึ้น โดยอยู่ที่ 5,700 ราย
ตัวเลขผู้เสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มขึ้นประมาณ 1,000 รายเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,983 รายและบาดเจ็บ 3,663 รายใน 53 ประเทศ โดยพลเรือนคิดเป็นร้อยละ 84 ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด โดยร้อยละ 37 เป็นเด็ก ทั้งนี้ เมียนมาเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากทุ่นระเบิดมากที่สุด ราว 1,000 คน เนื่องจากประเทศดังกล่าวไม่ได้เข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาห้ามใช้อาวุธชนิดนี้ รองลงมาคือซีเรีย ซึ่งมีผู้เสียชีวิตประจำปีสูงสุดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ขณะที่อัฟกานิสถานและยูเครน มีผู้เสียชีวิตจากทุ่นระเบิดมากกว่า 500 ราย ในปี 2566
“ทุ่นระเบิดเป็นอาวุธที่โจมตีเป้าหมายไม่ได้โดยธรรมชาติ ซึ่งหมายความว่าโดยการออกแบบแล้ว ทุ่นระเบิดไม่สามารถถูกนำไปใช้เพื่อกำหนดเป้าหมายบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้ ดังนั้น ผู้เสียชีวิตอาจเกิดขึ้นได้กับผู้ที่จุดชนวนทุ่นระเบิด ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือทหาร รวมถึงใครก็ตามในบริเวณใกล้เคียง” รายงานของกลุ่ม Landmine and Cluster Munition Monitor อธิบายอันตรายของอาวุธประเภททุ่นระเบิด
รายงานของกลุ่มดังกล่าวไม่ได้บันทึกจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกับทุ่นระเบิดทั้งหมด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตัวเลขที่แท้จริงอาจสูงกว่านี้ นอกจากเมียนมาแล้ว รัสเซีย อิหร่าน และเกาหลีเหนือ ยังถูกกล่าวหาว่ามีการวางทุ่นระเบิดใหม่ ซึ่งยังคงพบเห็นแนวโน้มดังกล่าวในปีที่ผ่านมา โดยประเทศเหล่านี้ไม่ได้เข้าร่วมในอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ สะสม ผลิตและโอน และการทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดหรืออนุสัญญาออตตาวา) ที่มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2542
มีข้อน่าสังเกตว่า แม้จะมึง 164 ประเทศทั่วโลกที่ลงนามในอนุสัญญาห้ามใช้ทุ่นระเบิด แต่ชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา รัสเซีย รวมถึงอิสราเอล ไม่ได้ร่วมลงนามด้วย ซึ่งในวันเดียวกับที่กลุ่ม Landmine and Cluster Munition Monitor เผยแพร่รายงานฉบับนี้ ก็มีข่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯ มีแนวคิดจะจัดหาทุ่นระเบิดส่งให้กับยูเครน ซึ่งขณะนี้กำลังทำสงครามอยู่กับรัสเซีย
อัลจาซีราอ้างรายงานข่าวจากสำนักข่าว AFP ของฝรั่งเศส ที่เผยแพร่แถลงการณ์ของกลุ่ม International Campaign to Ban Landmines (ICBL) ซึ่งเป็นองค์กรรณรงค์ยุติการใช้อาวุธประเภทกับระเบิดในสงคราม ประณามท่าทีของสหรัฐฯ และเรียกร้องให้ยุติแนวคิดดังกล่าว รวมถึงเรียกร้องต่อยูเครนไม่ให้รับมอบอาวุธชนิดนี้ด้วย
รายงานของกลุ่ม Landmine and Cluster Munition Monitor ยังชี้ว่า นอกจากกองทัพของรัฐหรือประเทศแล้ว ยังมีกองกำลังติดอาวุธที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ของโลกที่มีปัญหาความขัดแย้งและการสู้รบ อาทิ ฉนวนกาซา โคลอมเบีย อินเดีย เมียนมา และบางส่วนของภูมิภาคซาเฮลของแอฟริกา รวมถึงบูร์กินาฟาโซและมาลี ขณะที่มี 12 ประเทศที่ยังคงมีการผลิตหรือจัดหาทุ่นระเบิดใน 12 ประเทศ ซึ่งรวมถึงจีน คิวบา สิงคโปร์และเวียดนาม
ขอบคุณเรื่องจาก
https://www.aljazeera.com/news/2024/11/20/sharp-rise-recorded-in-landmine-casualties-in-2023-warns-report
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี