มอสโก/เคียฟ (เอพี/รอยเตอร์) - ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย แถลงทางโทรทัศน์ จะยิงทดสอบขีปนาวุธรุ่นใหม่ ‘โอเรสนิค’ อีกหลายครั้งในสมรภูมิ ด้านโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ขอตะวันตกส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศบริเวณที่สูง "ธาด" มาให้ เพื่อยกระดับการป้องกันภัยทางอากาศของยูเครน

 ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวทางโทรทัศน์จากกรุงมอสโกว่า รัสเซียจะยิงทดสอบขีปนาวุธรุ่นใหม่ ‘โอเรสนิค’ อีกหลายครั้ง รวมถึงการยิงในสภาวการณ์รบด้วย ระบุ รัสเซียมีคลังขีปนาวุธรุ่นใหม่โอเรสนิคอยู่จำนวนมากพร้อมใช้งาน ปูตินกล่าวต่อไปว่า การยิงขีปนาวุฌธโอเรสนิคถล่มเมืองดนิโปรของยูเครน เป็นการโต้กลับที่ยูเครนยิงขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐฯ กับขีปนาวุธ ‘สตอร์ม แชโดว์’ ของอังกฤษ ใส่ดินแดนรัสเซียเมื่อวันอังคารและวันพุธที่ผ่านมา ปูตินระบุด้วยว่า ขีปนาวุธโอเรสนิค เป็นขีปนาวุธที่ไม่อาจถูกยิงสกัดได้ เพราะเป็นขีปนาวุธรุ่นใหม่ มีความเร็วเหนือเสียง 10 เท่า

ปูตินกล่าว 1 วันหลังรัสเซียยิงขีปนาวุธทิ้งตัวรุ่นใหม่โอเรชนิค ใส่เมืองดนิโปรของยูเครนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (21 พ.ย.) มีรายงานล่าสุดว่า เกิดระเบิดหลายครั้งและเกิดไฟไหม้นานถึง 3 ชั่วโมงในเมืองดนิโปร เจ้าหน้าที่รัฐบาลยูเครน กล่าวหลังตรวจสอบความเสียหายในเมืองดนิโปรว่า ขีปนาวุธของรัสเซียดังกล่าว ทรงพลังอย่างมาก จนคล้ายกับขีปนาวุธทิ้งตัวข้ามทวีปไอซีบีเอ็ม

หลายฝ่ายมองว่า การที่สถานการณ์ยูเครน-รัสเซียมาตึงเครียดขึ้นในช่วงนี้ เพราะดูเหมือนว่า ทั้งรัสเซียและยูเครนกำลังเร่งมือชิงความได้เปรียบอีกฝ่ายในเวลาที่เหลืออยู่อีกเพียงประมาณ 2 เดือน ก่อนหน้าที่ โดนัลด์ ทรัมป์  จะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคมปีหน้า เนื่องจากทรัมป์ได้ประกาศชัดเจนว่า เขาจะจบสงครามยูเครนภายใน 24 ชั่วโมงหลังรับตำแหน่ง

ด้านประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เปิดเผยว่า ได้ขอให้ประเทศตะวันตกส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ทันสมัยมาให้ แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียด แต่สื่อในยูเครนรายงานเพิ่มว่า ยูเครนเรียกร้องต้องการระบบป้องกันภัยทางอากาศบริเวณที่สูงของสหรัฐฯ หรือ "ธาด" (THAAD) หรือไม่เช่นนั้น ก็ให้ช่วยปรับปรุงยกระดับขีปนาวุธแพตทริออตของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นระบบขีปนาวุธที่ต่อต้านขีปนาวุธแบบทิ้งตัว ที่จะสามารถต่อต้านขีปนาวุธทิ้งตัวโอเรสนิคของรัสเซียได้

ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า การยิงขีปนาวุธรุ่นใหม่โอเรสนิคของรัสเซียใส่ยูเครนเป็นครั้งแรกนี้ เป็นการส่งสัญญาณเตือนของรัสเซียต่อตะวันตกว่า โอเรสนิคเป็นขีปนาวุธทันสมัยกว่าและเร็วกว่าขีปนาวุธอื่นใดทั้งหมดในคลังแสงรัสเซีย และมีขีดความสามารถท้าทายอย่างร้ายแรงต่อระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครน