วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์/ซีเอ็นเอ็น) - โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ แต่งตั้งรัฐมนตรีครบทั้ง 15 กระทรวงแล้ว รัฐมนตรีสุดท้ายที่ได้รับการเสนอชื่อคือ กระทรวงเกษตร

โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี ชุดใหม่ครบทั้ง 15 กระทรวงแล้วเมื่อช่วงค่ำวันเสาร์ที่ 23 พ.ย. โดยเสนอชื่อ บรูค โรลลินส์ ผู้อำนวยการสถาบันอเมริกา เฟิร์ตส์ โพลิซี (America First Policy) หน่วยงานคลังสมองที่ได้รับเงินสนับสนุนจากขบวนการเคลื่อนไหว MAGA หรือ Make America Great Again อีกทั้งยังหนึ่งในพันธมิตรเหนียวแน่นของเขา ให้เขามาดูแลกระทรวงเกษตร เธอยังเคยเป็นหนึ่งในทีมงานประธานาธิบดีของทรัมป์ช่วงที่ดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ สมัยแรกด้วย

การเสนอชื่อโรลลินส์ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเกษตร ทำให้ทรัมป์แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ใน ครม.ทรัมป์ 2.0 ครบทั้ง 15 กระทรวงแล้ว หลังจากช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้คนที่มาดำรงตำแหน่งในอีก 3 กระทรวงที่เหลือก่อนหน้านี้ครบถ้วน เริ่มจาก สก็อตต์ เบสเซนต์ เป็นรัฐมนตรีคลัง ทำหน้าที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ การคุมกฎ และกิจการระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการกำหนดภาษีนำเข้าและมาตรการคว่ำบาตรประเทศต่างๆ วอลล์สตรีท จับตาการตั้งรัฐมนตรีคลังอย่างใกล้ชิดเพราะเป็นผู้ที่จะเข้ามาดูแลแผนของทรัมป์ด้านการค้าโลกผ่านการใช้นโยบายภาษีศุลกากร

ทรัมป์ยังเสนอชื่อ “โลรี ชาเวซ-เดอรีเมอร์”อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสส.หญิงรัฐออริกอน เป็นรัฐมนตรีแรงงาน เธอชนะเลือกตั้งเป็นสส. ครั้งแรกเมื่อปี 2022 แต่สอบตกในการเลือกตั้งสส. ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ทรัมป์ระบุว่า เธอเคยทำงานร่วมกับธุรกิจและแรงงาน เธอจะสร้างโอกาสให้แก่แรงงานชาวอเมริกัน และนำงานด้านการผลิตกลับคืนสู่อเมริกา ส่วนตำแหน่งสุดท้าย คือ สก็อต เทอร์เนอร์ อดีตนักอเมริกันฟุตบอลที่ผันตัวมาเล่นการเมือง ซึ่งทรัมป์เสนอให้เป็นรัฐมนตรีเคหะและการพัฒนาเมือง

นอกจากนี้ ยังมีชื่อของ เดฟ เวลดอนอดีตนายแพทย์และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสส.จากรัฐฟลอริดา ได้รับการเสนอชื่อจากทรัมป์ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาด หรือซีดีซีซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองแอตแลนตารัฐจอร์เจีย ทำหน้าที่ดูแลและควบคุมป้องกันโรคระบาดต่างๆ ในประเทศ

ทั้งนี้ รัฐมนตรีใหม่ทั้งหมดใน ครม. ทรัมป์ 2.0 จะต้องได้รับการพิจารณาและรับรองโดยวุฒิสภาสหรัฐฯ ชุดใหม่ต่อไป ซึ่งก็น่าจะไม่มีปัญหา เนื่องจากวุฒิสภาชุดใหม่ที่ได้มาจากการเลือกตั้งพร้อมกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมานั้น พรรครีพับลิกันของทรัมป์สามารถแย่งเสียงข้างมากมาครองจากพรรคเดโมแครตได้สำเร็จ