24 พ.ย. 2567 สำนักข่าวออนไลน์ The Times of Israel ของอิสราเอล รายงานข่าว Israel raises travel warning for Thailand amid ‘persistence of threat’ ระบุว่า สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ของอิสราเอล ยกระดับการเตือนภัยเป็นระดับ 2 ในการแจ้งเตือนพลเมืองของตนที่จะเดินทางไปยังประเทศไทย โดยอ้างถึงภัยคุกคามต่อชาวอิสราเอลที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการติดตามการแจ้งเตือนที่ออกครั้งแรกเมื่อเกือบ 2 สัปดาห์ที่แล้ว
ก่อนหน้านี้ในวันที่ 12 พ.ย. 2567 สมช. อิสราเอล ได้เรียกร้องให้พลเมืองของตนเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากภัยคุกคามในประเทศไทยที่อาจเกิดขึ้นต่อชาวอิสราเอล ส่วนการออกประกาศล่าสุดในวันที่ 24 พ.ย. 2567 ได้ระบุว่า เป็นการคำนึงถึงภัยคุกคามที่ยังคงมีอยู่ โดยเน้นย้ำว่าภัยคุกคามไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่ สมช. ได้ปรับปรุงและเสริมความแข็งแกร่งในคำแนะนำ
นิยามการแจ้งเตือนภัยระดับ 2 โดย สมช. อิสราเอล แนะนำให้นักเดินทางใช้มาตรการป้องกันที่เข้มงวดยิ่งขึ้น แต่ไม่ถือเป็นการเรียกร้องให้หลีกเลี่ยงหรือออกจากประเทศโดยสิ้นเชิง โดยพลเมืองอิสราเอลควรหลีกเลี่ยงการเข้าร่วมงานขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอล โดยเน้นที่งานที่ประกาศล่วงหน้า หรือสถานที่บันเทิงและการรวมตัวที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอล แจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในพื้นที่หากพบว่ามีกิจกรรมที่เป็นศัตรูกับชาวอิสราเอล
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า การแจ้งเตือนเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2567 มีขึ้นในขณะที่ตำรวจไทยได้เตือนถึงแผนการก่อการร้ายที่งาน ‘ฟูลมูนปาร์ตี้’ ในวันที่ 15 พ.ย. 2567 บนเกาะพะงัน ซึ่งเป็นเกาะยอดนิยมสำหรับพักผ่อน โดยมีนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลเดินทางไปเยือนเป็นจำนวนมาก คำเตือนดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางข้อกล่าวหาว่าอิหร่านสนับสนุนแผนการลอบสังหารนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลในศรีลังกา ซึ่งเชื่อมโยงกับความพยายามลอบสังหารโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ยังมีคำเตือนเรื่องอันตรายในการเดินทางไปยังประเทศศรีลังกา ก่อนที่ในวันที่ 14 พ.ย. 2567 จะมีการยกเลิกคำเตือนดังกล่าว ส่วนคำเตือนล่าสุดเกี่ยวกับประเทศไทย เกิดขึ้นหลังจากการพบศพ ซวี โคแกน (Zvi Kogan) แรบไบ หรือนักบวชในศาสนาฮิบรู (ศาสนาที่ชาวยิวส่วนใหญ่นับถือ) ในเมืองอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) หลังหายตัวไปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว โดยทางการอิสราเอลสงสัยว่า ชาวอุซเบกที่รุมทำร้ายโคแกน ได้รับการจ้างวานมาจากอิหร่าน โดยหลังก่อเหตุ คนเหล่านี้ได้หนีไปยังประเทศตุรกี
ทั้งนี้ อิสราเอลเฝ้าระวังอย่างสูงต่อความพยายามของอิหร่านที่จะทำร้ายพลเมืองอิสราเอลและชาวยิวทั่วโลกผ่านบุคลากรที่เป็นชาวอิหร่านและบุคคลอื่นๆ ที่ถูกจ้างวาน หลังจากที่ทั้งสองประเทศได้โจมตีใส่กันโดยตรงเป็นครั้งแรกในปี 2567 โดยอิหร่านเปิดฉากโจมตีอิสราเอลด้วยโดรนและขีปนาวุธพิสัยไกลในเดือนเมษายนและตุลาคม เพื่อตอบโต้การโจมตีของอิสราเอลต่อตัวแทนในเลบานอนและซีเรีย และในช่วงปลายเดือนตุลาคม อิสราเอลตอบโต้ด้วยการโจมตีหลายครั้ง โดยเครื่องบินหลายสิบลำโจมตีฐานทัพเชิงยุทธศาสตร์ทั่วอิหร่าน รวมทั้งฐานทัพอากาศ โดยอิหร่านให้คำมั่นว่าจะตอบโต้ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ ที่สำคัญ
ขอบคุณเรื่องและภาพจาก
https://www.timesofisrael.com/israel-raises-travel-warning-for-thailand-amid-persistence-of-threat/
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี