25 พ.ย. 2567 สำนักข่าวอัลจาซีราของกาตาร์ รายงานข่าว Iran to meet with Germany, France, UK in nuclear talks ระบุว่า อิหร่านเตรียมเจรจาเรื่องโครงการนิวเคลียร์กับ 3 ชาติมหาอำนาจในทวีปยุโรป คืออังกฤษ ฝรั่งเศสและเยอรมนี ท่ามกลางความตึงเครียดเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยเบื้องต้นมีรายงานจากอิหร่านและอังกฤษ ยินยันตรงกันว่าจะมีการพูดคุยในวันที่ 29 พ.ย. 2567 แต่ทั้ง 2 ประเทศ ไม่ได้บอกว่าจะนัดหารือกันที่ใด ขณะที่ เอสมาอิล บาเกอิ (Esmaeil Baghaei) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่าน กล่าวว่า จะมีการพูดคุยหลายประเด็น นอกจากเรื่องนิวเคลียร์แล้วยังมีเรื่องปาเลสไตน์และเลบานอนด้วย
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2567 ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) อันเป็นหน่วยงานในองค์กรสหประชาชาติ (UN) ได้ผ่านมติประณามอิหร่านว่าขาดความร่วมมือ และมหาอำนาจยุโรป 3 ประเทศที่จะเจรจากับทางอิหร่านก็ได้ร่วมลงคะแนนเสียงสนับสนุนมติดังกล่าว โดยจากสมาชิก 35 ประเทศของ IAEA มี 19 ประเทศ ลงมติตำหนิอิหร่าน ซึ่งถือเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เป็นส่วนใหญ่ ส่วนอีก 12 ประเทศงดออกเสียง ในขณะที่รัสเซีย จีน และบูร์กินาฟาโซ ลงมติไม่เห็นด้วย มตินี้ถือเป็นครั้งที่ 3 ที่ UN ดำเนินการดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563
การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ความตึงเครียดเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งนักวิจารณ์เกรงว่าโครงการดังกล่าวจะมุ่งเป้าไปที่การพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ แต่ฝ่ายอิหร่านนั้นปฏิเสธเรื่องดังกล่าวเสมอมา ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2567 เบห์รูซ คามาลวานดี (Behrouz Kamalvandi) โฆษกองค์การพลังงานปรมาณูของอิหร่าน ได้เปิดตัว เครื่องเหวี่ยงแบบใหม่และทันสมัย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่กลั่นยูเรเนียมที่เสริมสมรรถนะแล้วให้เป็นก๊าซ โดยอิหร่านจะเพิ่มขีดความสามารถในการเสริมสมรรถนะอย่างมีนัยสำคัญด้วยการใช้เครื่องจักรขั้นสูงหลายประเภท
ถึงกระนั้น อิหร่านยืนยันว่าพร้อมให้ความร่วมมือกับทาง IAEA ต่อไป ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษ ให้ข้อมูลกับสำนักข่าว AFP ของฝรั่งเศส ว่า อังกฤษยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินมาตรการทางการทูตทุกวิถีทางเพื่อป้องกันไม่ให้อิหร่านพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ รวมถึงการตอบสนองอย่างรวดเร็วหากจำเป็น ทั้งนี้ ใน ปี 2558 อิหร่านบรรลุข้อตกลงกับมหาอำนาจโลก รวมถึงสหรัฐอเมริกา เพื่อจำกัดโครงการนิวเคลียร์ เนื่องจากมีข้อกังวลเกี่ยวกับการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของประเทศ
แต่ในปี 2561 สหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ได้ถอนตัวออกจากข้อตกลงโดยฝ่ายเดียวและคว่ำบาตรอิหร่าน ซึ่งทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างทั้ง 2 ประเทศ นับจากนั้นเป็นต้นมา อิหร่านได้ลดความร่วมมือกับ IAEA โดยปิดการใช้งานอุปกรณ์เฝ้าระวังที่จัดทำโดยสหประชาชาติ ขณะเดียวกัน อิหร่านก็ได้เพิ่มปริมาณยูเรเนียมเสริมสมรรถนะในคลังของตน
‘จากเอกสารหลุดของ IAEA มีรายงานว่า อิหร่านได้เริ่มดำเนินการตามมาตรการเตรียมการเพื่อจำกัดปริมาณยูเรเนียมเสริมสมรรถนะในคลังของตน และใกล้จะถึงเกณฑ์ร้อยละ 90 ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับการผลิตหัวรบนิวเคลียร์แล้ว’ รายงานของสื่อกาตาร์ ระบุ
ขอบคุณเรื่องจาก
https://www.aljazeera.com/news/2024/11/24/iran-to-meet-with-germany-france-uk-in-nuclear-talks
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี