เวียงจันทน์/ซิดนีย์ (รอยเตอร์ส) - ทางการเมืองวังเวียงของ สปป.ลาว สั่งปิดกิจการ นานาแบ๊กแพ็กเกอร์ โฮสเทล ไว้ก่อน หลังมีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่พักโฮสเทลแห่งนี้เสียชีวิตจากเหล่าเถื่อนปนเปื้อนเมทานอลช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ชี้เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวเมืองวังเวียง ด้านบิดาของสตรีชาวออสเตรเลียที่เป็น 1 ในผู้เสียชีวิต6 ศพ จากกรณีคลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในสปป.ลาว เรียกร้องให้สืบสวนอย่างเต็มที่

ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา บุนจัน มาลาวงเจ้าเมืองวังเวียง ได้ลงพื้นที่เพื่อสืบสวน สอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวต่างชาติ3 ศพ ที่เดินทางมาเที่ยวในเมืองวังเวียง และเสียชีวิตในวันเดียวกัน เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พร้อมกับให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน สปป.ลาว ระบุว่าการสืบสวนสอบสวนครั้งนี้ได้ประสานงานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งระดับส่วนกลางและระดับแขวง ให้ส่งเจ้าหน้าที่มาเก็บข้อมูลหาสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิต รายงานตรงขึ้นไปยังรัฐบาล สปป.ลาว เพื่อจะได้ชี้แจงอย่างเป็นทางการกับประเทศบ้านเกิดของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ศพ และว่าระหว่างการสอบสวน ได้สั่งให้ปิดกิจการเฮือนพักนานา แบ๊กแพ็กเกอร์ไว้ก่อนเป็นการชั่วคราว

เจ้าเมืองวังเวียงยอมรับว่า เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบและสร้างภาพพจน์ที่ไม่ดีต่อการท่องเที่ยวของ สปป.ลาว โดยเฉพาะเมืองวังเวียง พร้อมยืนยันว่า จะดำเนินมาตรการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อทุกคน ทุกกิจการ ร้านอาหาร เครื่องดื่มทุกแห่งที่เกี่ยวข้อง หรือมีส่วนทำให้เกิดการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวในครั้งนี้

ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพราะล้มป่วยหนักหลังจากดื่มสุราที่เชื่อว่าปนเปื้อนเมทานอล แอลกอฮอล์พิษอันตรายถึงตายระหว่างท่องเที่ยวและท่องราตรีในเมืองวังเวียง 6 ศพ เป็นนักท่องเที่ยวหญิงเดนมาร์ก 2 ศพ ออสเตรเลีย 2 ศพ อังกฤษ 1 ศพ และนักท่องเที่ยวชายชาวอเมริกันอีก 1 ศพ ในจำนวนนี้ นักท่องเที่ยวหญิงชาวเดนมาร์ก 2 ราย อายุ 20 ปี และ 21 ปี ซึ่งไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในนครหลวงเวียงจันทน์ และนักท่องเที่ยวชายชาวอเมริกัน อายุ 57 ปีซึ่งพบนอนเสียชีวิตอยู่ในห้องพัก ต่างเข้าพักอยู่ในเฮือนพัก นานา แบ๊กแพ็กเกอร์ โฮสเทล ซึ่งมีชาวเวียดนามเป็นเจ้าของกิจการ โดยได้เช่าพื้นที่จากคนลาวเพื่อเปิดเฮือนพักรับนักท่องเที่ยว

ก่อนหน้านี้ ตำรวจท่องเที่ยวได้ควบคุมตัวผู้จัดการโรงแรมที่นักท่องเที่ยวที่เสียชีวิตหลายคนเข้าพักก่อนเสียชีวิตไป เพราะมีการแจกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ฟรี แต่ทางโรงแรมชี้ว่า ได้แจกให้นักท่องเที่ยวนับร้อยคนแต่คนอื่นๆ ปลอดภัยดี ไม่มีอาการป่วย

สื่อต่างชาติรายงานว่า สถานการณ์ในเมืองวังเวียงช่วงนี้ไม่ถึงกับเงียบเหงา ยังคงมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไปท่องเที่ยวอยู่เช่นเดิม ซึ่งที่นี่มีชื่อเสียงจากการกิจกรรม
ที่เรียกว่า tubing หรือการที่นักท่องเที่ยวนั่งห่วงยางลอยไปตามลำน้ำอันมีชื่อเสียงและมีทิวทัศน์สวยงามของเมืองวังเวียง แล้วแวะตามบาร์ต่างๆ ที่ตั้งริมลำน้ำเพื่อดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งหลายร้านจัดกิจกรรมแจกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฟรีให้นักท่องเที่ยวดื่มกันไม่อั้น ที่หลายฝ่ายเชื่อว่า บางส่วนเป็นเหล้าเถื่อนที่ลักลอบผสมเมทานอล นักท่องเที่ยวหลายคนบอกว่า พวกเขาดื่มกินกันที่เมืองวังเวียงเป็นปกติ ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้รับจากบาร์และโรงแรมเป็นเหล้าเถื่อน หลังจากนี้คงไม่กล้าดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ไม่มีฉลากกำกับชัดเจน

ขณะที่บิดาของ เบียงก้า โจนส์นักท่องเที่ยวหญิงชาวออสเตรเลียซึ่งเสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ที่แล้วขณะถูกนำตัวมารักษาในโรงพยาบาลที่ประเทศไทย แถลงข่าวเปิดใจกับการสูญเสีย ระบุว่าบุตรสาวเพิ่งจะเริ่มต้นชีวิตหลังจากจบการศึกษา เป็นการท่องเที่ยวผจญโลกกับเพื่อนสนิทซึ่งควรจะเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำของชีวิต เขาจึงอยากให้ชีวิตของลูกสาวเป็นบทเรียนและใช้ปกป้องชีวิตของคนอื่นๆ ไม่ให้ต้องประสบชะตาเดียวกัน จึงขอเรียกร้องให้ทางการ สปป.ลาวสืบสวนเรื่องนี้อย่างเต็มที่