ย่างกุ้ง/เฮก (เอพี/รอยเตอร์) - รัฐบาลทหารเมียนมาเผยว่า ไม่ยอมรับแถลงการณ์ใด ๆ ของศาลอาญาระหว่างประเทศหรือไอซีซี หลังจากอัยการของไอซีซีเผยเมื่อวันพุธ (27 พ.ย.) ว่า จะขอหมายจับ พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้นำของเมียนมา ในข้อหาอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
กระทรวงสารสนเทศของเมียนมาส่งอีเมลตอบข้อถามของรอยเตอร์เรื่องอัยการไอซีซีจะขอหมายจับผู้นำเมียนมาในข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติกรณีเข่นฆ่าชาวโรฮิงญาาว่า เมียนมาไม่ได้เป็นสมาชิกไอซีซี จึงไม่ยอมรับแถลงการณ์ใด ๆ ของไอซีซี พร้อมกับย้ำว่าเมียนมามีนโยบายการต่างประเทศที่เป็นอิสระและไร้อคติ และอยู่ร่วมกับประเทศอื่นอย่างสันติ
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (27 พ.ย.) คาริม ข่าน หัวหน้าอัยการศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือไอซีซี ประกาศว่า ได้ยื่นคำร้องต่อไอซีซีให้อนุมัติออกหมายจับ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย หลังจากที่ได้สืบสวนอย่างเข้มข้น เป็นอิสระ และเป็นธรรม จนพบหลักฐานที่ชัดเจน เป็นการยื่นขอหมายจับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเมียนมาเป็นหมายแรก หลังจากนี้จะมีการยื่นขอหมายจับอีกหลายหมายติดตามมา โดยที่ผ่านมา ไอซีซีใช้เวลาเกือบ 5 ปีในการสืบสวนเรื่องการก่ออาชญากรรมต่อชาวโรฮิงญา เนื่องจากมีอุปสรรคในการเข้าไปในเมียนมา และสถานการณ์ในเมียนมาตกอยู่ในความโกลาหลตั้งแต่กองทัพก่อรัฐประหารเมื่อปี 2564
ชาวโรฮิงญาซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่นับถือศาสนาอิสลามในเมียนมาราว 1 ล้านคนอพยพออกจากรัฐยะไข่ ทางตะวันตกสุดของเมียนมา ส่วนใหญ่หนีข้ามพรมแดนเข้าไปในบังกลาเทศ นับตั้งแต่กองทัพเมียนมาเริ่มบุกในเดือนสิงหาคม 2560 คณะสอบสวนของสหประชาชาติกล่าวหา ทหาร ตำรวจ และชาวพุทธในพื้นที่ว่า เผาบ้านเรือนของชาวโรฮีนจา อีกทั้งยังทรมาน รุมโทรม และสังหารหมู่ชนกลุ่มน้อยเหล่านี้ ถือว่าเป็นการเจตนาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ขณะที่เมียนมาอ้างว่า เป็นปฏิบัติการที่ชอบด้วยกฎหมายในการกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธที่โจมตีสถานีตำรวจ
แม้ว่าเมียนมาไม่ได้เป็นภาคีของไอซีซี แต่คณะผู้พิพากษามีคำวินิจฉัยในปี 2561 และ 2562 ว่า ไอซีซีมีขอบเขตอำนาจศาลเหนือการก่ออาชญากรรมข้ามพรมแดน ซึ่งบางส่วนเกิดขึ้นในบังกลาเทศที่เป็นภาคีของไอซีซี โดยอัยการสามารถเปิดการสอบสวนอย่างเป็นทางการได้ ซึ่งถือเป็นการเปิดทางในการยื่นคำร้องครั้งนี้
ตุน ขิ่น ประธานองค์กรโรฮิงญาเบอร์มิส ในสหราชอาณาจักร แสดงความยินดีต่อการขอหมายจับจากไอซีซีในครั้งนี้ และชี้ว่านี่คืออีกก้าวย่างที่สำคัญของความยุติธรรมและความรับผิดชอบ ส่วน ซิน มาร์อ่อง รัฐมนตรีต่างประเทศ ของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ หรือเอ็นยูจี ซึ่งเป็นรัฐบาลเงาของเมียนมาที่อยู่ในต่างประเทศ ชี้ว่า การเรียกร้องขอหมายจับของไอซีซีต่อพล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของประเทศ และเขาจะต้องรับผิดชอบในทุกชีวิตบริสุทธิ์ที่ถูกทำลาย และครอบครัวที่ถูกทำให้แตกแยก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี