เคียฟ (เอพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์)-ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนเผยต้องการร่วมงานโดยตรงกับโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ และเปิดรับแนวคิดของเขา โดยเน้นย้ำถึงความกระตือรือร้นของยูเครนที่จะรักษาพันธมิตรที่สำคัญที่สุดไว้พร้อมเสนอยกดินแดนยูเครนส่วนที่ยังไม่ถูกยึดครองให้อยู่ภายใต้นาโต หวังทำให้ช่วงร้อนแรงของสงครามจบลง

ประธานาธิบดีเซเลนสกี ให้สัมภาษณ์กับสกาย นิวส์ ที่ออกอากาศเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เขาพร้อมทำงานกับใกล้ชิด โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ และต้องการร่วมงานกับทรัมป์โดยตรง พร้อมเสริมว่า เขาไม่อยากให้คนรอบตัวทรัมป์ทำลายการสื่อสารของพวกเขา และตัวเขาอยากแบ่งปันแนวคิดกับทรัมป์ และอยากฟังแนวคิดของทรัมป์จากตัวทรัมป์เอง หลังจากที่ผ่านมา สหรัฐฯ ถือเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือทางการทหารแก่ยูเครนรายใหญ่ที่สุด และยูเครนก็ตระหนักดีว่า จำเป็นต้องร่วมมือกับทรัมป์เพื่อให้ได้รับการสนับสนุนในอนาคต ซึ่งตามข้อมูลของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ รัฐบาลได้สนับสนุนความพยายามทำสงครามของยูเครนเป็นมูลค่าสูงถึง 64,100 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากบุกยูเครนเต็มรูปแบบเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565

เซเลนสกีกล่าวถึงบทสนทนาระหว่างเขากับทรัมป์ ระหว่างการเยือนนิวยอร์กในเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่าอบอุ่น ราบรื่น และเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญ แต่จำเป็นต้องมีการพูดคุยอย่างละเอียดมากขึ้นจนกว่าจะมีแผนงานที่ชัดเจนในเรื่องที่ยูเครนมีความแข็งแกร่ง เซเลนสกี กล่าวด้วยว่า อังเดรย์ เยอร์มัค หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ของเขา จะเดินทางไปยังสหรัฐฯในเร็วๆ นี้ เพื่อร่วมประชุม ซึ่งรวมถึงกับ คีธ เคลล็อกก์ ผู้ที่ทรัมป์เลือกให้เป็นทูตพิเศษประจำยูเครนด้วย โดยเคลล็อกก์ สนับสนุนการหยุดยิงและการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งจะรวมถึงการรับประกันความปลอดภัยสำหรับยูเครนเพื่อป้องกันการรุกรานของรัสเซียในอนาคต อย่างไรก็ตาม ผู้นำยูเครนกล่าวกับสกาย นิวส์ ว่า ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูตินของรัสเซีย ไม่พร้อมในการเจรจา และไม่ต้องการยุติสงคราม

ก่อนชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทรัมป์กล่าวย้ำหลายครั้งว่า สงครามรัสเซีย-ยูเครน จะไม่เกิดขึ้นหากเขายังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เขาให้คำมั่นด้วยว่าจะยุติสงครามครั้งนี้ โดยบางครั้งถึงกับอ้างว่าเขาจะยุติความขัดแย้งที่กินเวลานานหลายปีก่อนเข้ารับตำแหน่งด้วยซ้ำ ซึ่งในเดือนกรกฎาคม เขากล่าวว่า เขาจะยุติความขัดแย้งได้ภายในวันเดียว โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

ในอีกด้านหนึ่ง ในการให้สัมภาษณ์พิเศษกับสกาย นิวส์ เซเลนสกี ระบุว่า เต็มใจพิจารณายอมให้ดินแดนยูเครนส่วนที่ยังไม่ถูกยึดครอง ให้เข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต แต่มีเงื่อนไขว่า นาโตจะต้องยอมรับยูเครนเป็นสมาชิกทั้งประเทศก่อน ซึ่งรวมถึงดินแดนที่ถูกรัสเซียยึดครองอยู่ในขณะนี้ด้วย เพราะอาณาเขตของยูเครนทั้งประเทศนั้น ได้รับการรับรองจากนานาชาติ จากนั้น ยูเครนจะพยายามเจรจาเพื่อขอคืนดินแดนที่อยู่ในความควบคุมของรัสเซียในขณะนี้ ด้วยวิถีทางทางการทูต เซเลนสกีระบุเหตุผลที่นาโตจำเป็นต้องเสนอสมาชิกภาพให้แก่ยูเครนทั้งประเทศ เนื่องจากไม่อาจเชิญเพียงบางส่วนของประเทศเป็นสมาชิกนาโตได้ และถ้าหากทำเช่นนั้น จะเท่ากับยอมรับว่า มีเพียงพื้นที่ในยูเครนที่ยังไม่ถูกยึดเท่านั้น ที่ยังถือเป็นดินแดนของยูเครน แต่พื้นที่ที่ถูกรัสเซียยึด ถือเป็นพื้นที่ของรัสเซีย ซึ่งไม่ใช่เช่นนั้น

อย่างไรก็ตาม เซเลนสกียอมรับเองว่าข้อเสนอดังกล่าวของเขามีความเป็นทฤษฎีสูง และยืนยันว่า ยังไม่ได้มีใครเสนอเช่นนี้ต่อยูเครนแต่อย่างใด นอกจากนี้ เขายังไม่แน่ใจว่านาโตจะพิจารณาทำอย่างที่เขาเสนอเช่นนั้นหรือไม่