ฝรั่งเศสป่วน!!! สภาลงมติไม่ไว้วางใจหลังเห็นชอบไม่ผ่านงบประมาณ สะเทือนรัฐบาล"มิเชล บาร์นีเยร์" ส่อเค้าล้มอย่างช้าก่อนถึงช่วงคริสต์มาสนี้

4 ธ.ค.67 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การเมืองฝรั่งเศสส่อเค้าวุ่นวายหลังจากสมัชชาแห่งชาติ หรือรัฐสภาไม่ผ่านงบประมาณ เริ่มลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลเมื่อวานนี้ (4 ธ.ค.) รัฐบาลสายกลางของนายกรัฐมนตรี มิเชล บาร์นีเยร์ ส่อเค้าล้มอย่างช้าก่อนถึงช่วงคริสต์มาสนี้

รัฐบาลฝรั่งเศส​ ซึ่งเป็นรัฐบาลสายกลางเสียงข้างน้อย กำลังเผชิญความเสี่ยงที่จะล่มสลาย หลังจากที่นายกรัฐมนตรี มิเชล บาร์นีเยร์ ได้ใช้อำนาจพิเศษในการผ่านร่างงบประมาณของเขา โดยไม่ผ่านรัฐสภา ส่งผลให้บรรดาพรรคฝ่ายค้าน ทั้งกลุ่มแนวร่วมฝ่ายซ้าย หรือ FLI และพรรค RN พรรคขวาจัดของ มารีน เลอ เปน ไม่พอใจอย่างรุนแรง และได้เริ่มกระบวนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลและอดีตนักเจรจาเบรกซิตเมื่อวานนี้ (4 ธ.ค.)

โดยบาร์นีเยร์ พยายามที่จะผลักดันการปฏิรูประบบประกันสังคม ด้วยการอ้างคำสั่งของประธานาธิบดี หลังจากที่รัฐบาลเสียงข้างน้อยไม่ได้รับเสียงสนับสนุนอย่างเพียงพอในนโยบายนี้ร่างกฎหมายงบประมาณดังกล่าว มีขึ้นเพื่อหวัง ควบคุมงบประมาณที่ขาดดุลของฝรั่งเศสที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงจุดมุ่งหมายที่จะเพิ่มภาษี และลดค่าใช้จ่าย รวมมูลค่า 60,000 ล้านยูโร (กว่า 2.1 ล้านล้านบาท)

นักการเมืองฝ่ายซ้ายคนหนึ่ง บอกว่า สถานการณ์เช่นนี้ทำให้ฝรั่งเศส ตกอยู่ในวิกฤตการเมืองที่รุนแรง

ขณะที่บาร์นีเยร์ กล่าวหลังถูกตีตกร่างงบประมาณนี้ว่า เขาไม่คิดว่าชาวฝรั่งเศสจะให้อภัยที่เลือกผลประโยชน์ของพรรการเมือง เหนือผลประโยชน์ของประเทศ และอธิบายถึงเหตุผลของการตัดสินใจนี้ว่า ต่อไปจากนี้ ทุกคนจะต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ตัดสินใจ

ที่ผ่านมา ฝรั่งเศสเผชิญกับความไม่มั่นคงทางการเมือง นับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง สั่งให้มีการเลือกตั้งก่อนกำหนด เมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ที่ทำให้เกิด "รัฐสภาแขวน"​ หรือ hung parliament ที่ไม่มีพรรคไหนได้เสียงข้างมากในสภา

ขณะที่สำนักสำรวจแห่งหนึ่งได้สอบถามความเห็นคนในฝรั่งเศส 1,006 คน ระหว่างวันที่ 26-27 พฤศจิกายน และเผยแพร่ผ่านสถานีวิทยุซูดเรดิโอ (Sud Radio) เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ว่า ผู้ตอบร้อยละ 67 ไม่เห็นด้วยกับร่างงบประมาณของบาร์นีเยร์ ที่ต้องการลดยอดขาดดุลงบประมาณที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยการขึ้นภาษีและลดการใช้จ่ายภาครัฐมหาศาล ส่วนผลสำรวจที่สถานีโทรทัศน์ BFM TV เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว พบว่า ผู้ตอบร้อยละ 63 เห็นว่าประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง วัย 46 ปี ควรลาออกด้วย หากรัฐบาลบาร์นีเยร์ล้ม

บาร์นีเยร์ วัย 73 ปี ได้รับแต่งตั้งจากประธานาธิบดีมาครง ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 กันยายน หลังการเลือกตั้งสมาชิกสภาก่อนกำหนด เขามีนโยบายสนับสนุนยุโรปและอนุรักษ์นิยม