โซล (รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์/ยอนฮัพ) -รัฐบาลเกาหลีใต้จะต่อสู้กับการถอดถอนประธานาธิบดี ยุน ซ็อก ยอล ซึ่งถูกฝ่ายค้านยื่นถอดถอนเมื่อวันพุธที่ 4 ธ.ค. และมีแผนจะลงมติกันในสุดสัปดาห์นี้ ขณะที่หลายฝ่ายเชื่อ รัฐมนตรีกลาโหมซึ่งลาออกจากตำแหน่งแล้วดูเหมือนจะเป็นแพะในเหตุการณ์ที่ประธานาธิบดีประกาศกฎอัยการศึก ที่สร้างความตกตะลึงไปทั่วประเทศ

สำนักข่าวยอนฮัพของเกาหลีใต้รายงานว่า หลังจากเมื่อวันพุธที่ 4 ธ.ค. พรรคประชาธิปไตยซึ่งเป็นแกนนำฝ่ายค้านเกาหลีใต้ ได้ยื่นญัตติถอดถอน ยุน ซ็อก ยอล ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี จากกรณีประกาศกฎอัยการศึกเมื่อกลางดึกวันอังคารที่ 3 ธ.ค. จนเกิดความสับสนโกลาหลวุ่นวายไปทั้งประเทศ ล่าสุด พรรคพลังประชาชนซึ่งเป็นพรรครัฐบาลประกาศจะต่อสู้เพื่อไม่ให้นายยุนถูกถอดถอน โดยทางพรรคซึ่งมีเสียง สส.ในสภา 108 ที่นั่งประกาศว่าจะยกมือโหวตสวนญัตติของฝ่ายค้านขณะที่ตัวของประธานาธิบดียุน ก็พยายามต่อสู้เพื่ออนาคตทางการเมืองของตนเองเช่นเดียวกัน โดยไม่สนเรื่องการถูกถอดถอน ล่าสุด ยุนได้รับหนังสือลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมของ คิม ยอง คยอน และแต่งตั้ง ชอย บยอง ฮยอก ทูตประจำซาอุดีอาระเบียเข้ามาเป็นรัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ทันที

หลายฝ่ายมองว่าในเวลานี้ ดูเหมือน คิม ยอง คยอน อดีตรัฐมนตรีกลาโหม จะตกเป็นแพะรับบาปจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะทั้งรัฐมนตรีมหาดไทยและนายทหารระดับสูงต่างชี้ว่า เขาเป็นผู้แนะนำให้ประธานาธิบดียุนประกาศกฎอัยการศึก ขณะที่ คิม ซอน โฮ รัฐมนตรีช่วยกลาโหม บอกด้วยว่า คิม ยอง คยอน เป็นผู้ออกคำสั่งให้ส่งทหารไปที่รัฐสภา โดยที่ตัวเขาเองก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะมีการประกาศกฎอัยการศึก จนกระทั่งมีการประกาศออกมาจากประธานาธิบดียุน โดยขณะนี้ คิมถูกสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศเนื่องจากอัยการอยู่ระหว่างการสอบสวนเรื่องการประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งทั้งประธานาธิบดียุนและรัฐมนตรีมหาดไทยก็ถูกสอบสวนด้วยเช่นกัน

ขณะที่ฝ่ายค้านยังคงเดินหน้าถอดถอนประธานาธิบดียุน โดยมีกำหนดจะลงมติถอดถอนในวันเสาร์ที่ 7 ธ.ค. หลังมีการยื่นญัตติต่อสภาด้วยเหตุผลที่นายยุนประกาศกฎอัยการศึกแล้วยกเลิกไปในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ทำให้เกิดความวุ่นวายโกลาหลและทำลายภาพลักษณ์ประชาธิปไตยของประเทศ ซึ่งฝ่ายค้านกล่าวหานายยุนว่าละเมิดรัฐธรรมนูญและทรยศหักหลังประชาชน

ในการลงมติถอดถอนจำเป็นต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากสภาผู้แทนราษฎรอย่างน้อย 2 ใน 3 ซึ่งอาจจะไม่ใช่เรื่องยากเพราะฝ่านค้านครองเสียงข้างมากในสภาถึง 192 เสียง จากทั้งหมด 300 เสียง นั่นก็หมายความว่า หากมี สส.ฝ่ายรัฐบาลออกเสียงสนับสนุนอีกเพียง 8 เสียงเท่านั้น ญัตติถอดถอนนายยุนก็จะผ่านความเห็นชอบทันที หากญัตติถอดถอนผ่านความเห็นชอบจากสภาแล้ว ขั้นตอนต่อไป ศาลรัฐธรรมนูญจะทำหน้าที่ชี้ขาดว่าจะเห็นชอบตามญัตติดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งกระบวนการตรงนี้อาจจะต้องใช้เวลาถึง 180 วัน และในระหว่างการพิจารณาของศาล ยุนจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยนายกรัฐมนตรี ฮัน ด็อก ซู จะเป็นผู้ทำหน้าที่แทน และหากถึงที่สุดแล้ว นายยุนอาจตัดสินใจลาออก หรือถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง ก็จะต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ภายในเวลา 60 วัน