ดามัสกัส/วอชิงตัน/เทลอาวีฟ (รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์/อัลจาซีรา) - โมฮัมเหม็ด อัล-บาชีร์ ผู้นำรัฐบาลของกลุ่มกบฏในจังหวัดอิดลิบทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย ประกาศทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลของซีเรีย โดยจะอยู่ในตำแหน่งไปจนถึงวันที่ 1 มีนาคม2568 ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุจะรับรองรัฐบาลในอนาคตของซีเรีย หากเกิดขึ้นจากกระบวนการที่เชื่อถือได้และรวมทุกฝ่ายจริง

โมฮัมเหม็ด อัล-บาชีร์ นักการเมืองและวิศวกรที่เกิดในปี 2526 แถลงทางโทรทัศน์ว่า ได้มีการประชุมคณะรัฐมนตรีที่มีทั้งคณะทำงานจากรัฐบาลกู้ชาติที่ทำหน้าที่บริหารอยู่ในจังหวัดอิดลิบและคณะทำงานจากรัฐบาลที่ถูกโค่นล้ม ประเด็นสำคัญของการประชุม คือ การถ่ายโอนอำนาจให้กับรัฐบาลเฉพาะกาล เขาจะเข้าทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลของซีเรีย โดยจะอยู่ในตำแหน่งไปจนถึงวันที่ 1 มีนาคม 2568 อัล-บาชีร์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 5 ของรัฐบาลกู้ชาติซีเรีย (Syrian Salvation Government) อันเป็นหน่วยงานบริหารของกลุ่ม ฮายอัต ตาห์รีร อัล-ชาม (Hayat Tahrir al-Sham) หรือเอชทีเอส (HTS) ในจังหวัดอิดลิบตั้งแต่วันที่ 13 มกราคมปีนี้

ส่วนสถานการณ์ในกรุงดามัสกัสเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ ธนาคารร้านค้าต่างๆ เปิดให้บริการอีกครั้งนับตั้งแต่ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ถูกโค่นล้มไปเมื่อวันอาทิตย์ที่8 ธ.ค. ท้องถนนสายต่างๆ มียวดยานกลับมาสัญจร ขณะที่จำนวนนักรบของกลุ่มกบฏที่คอยลาดตระเวนได้ลดจำนวนลงอย่างเห็นได้ชัดเพื่อให้ตำรวจและกองกำลังรักษาความมั่นคงภายในที่โยงกับเอชทีเอส ซึ่งเป็นแกนนำของกลุ่มกบฏ เข้ามาทำหน้าที่แทน

ด้านท่าทีของสหรัฐฯ แอนโทนี่ บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ จะให้การรับรองอย่างเต็มรูปแบบต่อรัฐบาลซีเรียในอนาคต ตราบใดที่รัฐบาลซีเรียในอนาคตนั้นเกิดขึ้นจากกระบวนการที่เชื่อถือได้ รวมทุกฝ่ายในซีเรีย และรับผิดชอบต่อชนกลุ่มน้อยต่างๆ ในซีเรีย ส่วน ด้านแมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า บลิงเคนได้หารือสถานการณ์ซีเรียกับหลายประเทศตะวันออกลาง ได้แก่ จอร์แดน กาตาร์ อียิปต์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี ส่วนข้อซักถามกรณีที่อิสราเอลกำลังโจมตีทางอากาศอย่างหนักในซีเรียขณะนี้ มิลเลอร์เผยว่า จุดยืนสหรัฐฯ ต้องการให้หลีกเลี่ยงการกระทใดๆ ที่อาจกระทบกระบวนการสันติภาพในซีเรียขณะนี้ และสหรัฐฯ เน้นเรื่องความรับผิดชอบของผู้ที่อยู่ในอำนาจในซีเรียขณะนี้ ต้องรักษาความปลอดภัยจากอาวุธเคมีและกำจัดอาวุธเคมีใดๆ ก็ตามที่ค้นพบ

ก่อนหน้านี้ อิสราเอลได้ยอมรับว่ากองทัพ โจมตีทางอากาศทั่วซีเรียไปแล้วมากกว่า 350 ครั้ง ในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา เป้าหมายโจมตีคือคลังอาวุธต่อต้านอากาศยาน สนามบินทางทหาร โรงงานผลิตอาวุธ และเครื่องบินรบและขีปนาวุธ และสามารถทำลายคลังอาวุธทางยุทธศาสตร์ของซีเรียได้ส่วนใหญ่แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้อาวุธตกไปอยู่ในมือของกลุ่มก่อการร้าย และยังปฏิเสธข่าวเรื่องทหารอิสราเอลเคลื่อนออกนอกพื้นที่เขตกันชนในซีเรีย เข้าสู่เขตชนบทใกล้กับกรุงดามัสกัสด้วย ระบุ อิสราเอลไม่มีความสนใจแทรกแซงกิจการการเมืองภายในซีเรีย