12 ธ.ค. 2567 นสพ.The Daily Star ของบังกลาเทศ รายงานข่าว Israeli strikes in Syria illegal: UN experts อ้างความเห็นของ เบน ซอล (Ben Saul) ผู้รายงานพิเศษของสหประชาชาติ (UN) ด้านการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและต่อต้านการก่อการร้าย ที่ระบุว่า การที่อิสราเอลฉวยโอกาสทำลายอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ในซีเรีย โดยอาศัยสถานการณ์ที่ฝ่ายกบฏเพิ่งยึดอำนาจการปกครองจากประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด (Bashar al-Assad) และการจัดระเบียบการบริหารใหม่ของประเทศยังไม่เรียบร้อย เป็นการกระทำที่ไม่มีกฎหมายรองรับ
“ไม่มีพื้นฐานใดๆ เลยภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศที่จะป้องกันหรือลดอาวุธในประเทศที่คุณไม่ชอบ หากเป็นอย่างนั้น ก็จะก่อให้เกิดความวุ่นวายทั่วโลก มีหลายประเทศที่มีศัตรูที่พวกเขาอยากเห็นว่าไม่มีอาวุธ นี่เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างสิ้นเชิง” ซอล กล่าว
ในช่วง 48 ชั่วโมงหลังการล่มสลายของรัฐบาลอัสซาด กองทัพอิสราเอลเปิดเผยว่า ได้ส่งเครื่องบินโจมตีเป้าหมายต่างๆ ในซีเรียมากกว่า 350 ครั้ง รวมถึงฐานทัพอากาศต่อต้านอากาศยาน สนามบินทหาร สถานที่ผลิตอาวุธ เครื่องบินรบ และขีปนาวุธ นอกจากนี้ ยังให้เรือรบยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพเรือซีเรียที่ท่าเรืออัล-บายดา และท่าเรือลาตาเกีย ซึ่งมีเรือรบซีเรียจอดอยู่ 15 ลำ โดยอ้างว่า เพื่อป้องกันไม่ให้อาวุธเหล่านี้ตกไปอยู่ในมือของฝ่ายกบฏ เนื่องจากบางส่วนของแนวร่วมฝ่ายกบฎเติบโตมาจากกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์และไอซิส
ซอล ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญอิสระที่ไม่ได้ให้ความเห็นในนามของสหประชาชาติ เช่นเดียวกับผู้รายงานพิเศษคนอื่นๆ กล่าวว่า การโจมตีเลบานอนซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของอิสราเอลนั้นแตกต่างออกไป เพราะที่นั่นมีความขัดแย้งรุนแรง ขณะเดียวกัน ผู้ช่วยคนสำคัญของประธานาธิบดีโจ ไบเดน (Joe Biden) แห่งสหรัฐอเมริกา กำลังมุ่งหน้าไปยังตะวันออกกลาง โดยมุ่งหวังที่จะผลักดันความพยายามในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงและจับตัวประกันในฉนวนกาซาที่เลื่อนลอย และช่วยให้แน่ใจว่าการเปลี่ยนแปลงในซีเรียจะเป็นไปอย่างราบรื่นหลังจากการโค่นล้มรัฐบาลอัสซาด
แอนโทนี บลิงเคน (Antony Blinken) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ มีกำหนดเยือนจอร์แดนและตุรกี ขณะที่ เจค ซัลลิแวน (Jake Sullivan) ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ มีแผนที่จะแวะพักที่อิสราเอล กาตาร์ และอียิปต์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ทั้งนี้ อิสราเอลยกระดับการสู้รบในเลบานอนตอนใต้เมื่อปลายเดือน ก.ย. 2567 หลังจากการปะทะสลับกันไป-มา ที่เริ่มต้นโดยกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนซึ่งสนับสนุนกลุ่มฮามาสสู้รบกับอิสราเอล นับตั้งแต่ความรุนแรงปะทุขึ้นในดินแดนปาเลสไตน์เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566
แม้กลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ ที่มีฐานที่มั่นหลักในเลบานอน จะได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย อิหร่าน รวมถึงซีเรียในยุค ปธน.อัสซาด แต่ซอลมองการโจมตีระลอกล่าสุดของอิสราเอลว่าเป็นการสานต่อสิ่งที่อิสราเอลทำในซีเรียมาอย่างน้อย 1 ทศวรรษ โดยชี้ให้เห็นถึงการโจมตีเชิงป้องกันหลายร้อยครั้งที่กองทัพอิสราเอลเปิดฉากโจมตีในซีเรียตลอดหลายปีที่ผ่านมาต่อคลังอาวุธของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ แม้ว่ากลุ่มดังกล่าวจะไม่ได้โจมตีอิสราเอลจากซีเรียเลยก็ตาม
“นั่นจะเป็นสถานการณ์เดียวที่อิสราเอลสามารถใช้การป้องกันตนเองจากกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในซีเรียได้ แต่คุณไม่สามารถติดตามศัตรูของคุณไปทุกที่ในโลก และทิ้งระเบิดใส่พวกเขาในประเทศที่สาม ซึ่งเป็นแนวทางของอิสราเอล” ซอล กล่าวย้ำ
จอร์จ คาทรูกาลอส (George Katrougalos) ผู้รายงานพิเศษของสหประชาชาติด้านการส่งเสริมระเบียบระหว่างประเทศที่เป็นประชาธิปไตยและเท่าเทียมกัน กล่าวถึงการกระทำของอิสราเอลในซีเรียว่าเป็นกรณีหนึ่งของความไร้กฎหมาย ที่อิสราเอลแสดงให้เห็นในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งหมายถึงการโจมตีโดยไม่มีการยั่วยุต่อรัฐที่มีอำนาจอธิปไตย
ขอบคุณเรื่องจาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี