โซล (รอยเตอร์ส/ยอนฮัพ) – ศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้จะเริ่มดำเนินการไต่สวนว่าจะถอดถอนประธานาธิบดี ยุน ซอก-ยอล ออกจากตำแหน่งหรือไม่ในปลายสัปดาห์นี้ จากปมประกาศกฎอัยการศึกเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ขณะที่ประธานาธิบดียุนปฏิเสธหมายเรียกรอบ 2 ของสำนักงานปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเกาหลีใต้ และอาจถูกออกหมายจับ

สำนักข่าวยอนฮัพของเกาหลีใต้รายงานว่า กระบวนการถอดถอน ยุน ซอก-ยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ออกจากตำแหน่งเริ่มมีความคืบหน้าไปอีกขั้น เมื่อศาลรัฐธรรมนูญได้กำหนดจะเริ่มการไต่สวนเป็นครั้งแรกในวันที่ 27 ธันวาคมนี้ เพื่อชี้ชะตาว่านายยุนจะถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งหรือไม่ หลังจากเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา เขาถูกรัฐสภาลงมติถอดถอนจากกรณีประกาศกฎอัยการศึกเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 3 ธันวาคม จนสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายไปทั้งประเทศ โดยศาลรัฐธรรมนูญจะต้องมีคำวินิจฉัยภายใน 180 วัน ว่า จะถอดถอนยุนตามมติของรัฐสภา หรือจะคืนอำนาจให้แก่ยุน ซึ่งอยู่ระหว่างถูกพักงานได้กลับเข้ามาทำหน้าที่อีกครั้ง ซึ่งหากศาลมีมติให้ถอดถอน หรือยุนตัดสินใจลาออกก็จะต้องจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีใหม่ภายในเวลา 60 วัน

รัฐธรรมนูญเกาหลีใต้กำหนดว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 6 ใน 9 เสียงจะต้องเห็นชอบจึงจะถอดถอนยุนได้ แต่ขณะนี้มีตำแหน่งตุลาการศาลว่างลง 3 ตำแหน่ง นั่นก็หมายความว่าตุลาการทั้ง 6 คนที่เหลืออยู่จะต้องมีมติเป็นเอกฉันท์เท่านั้น หากยุนถูกศาลถอดถอนเขาจะเป็นประธานาธิบดีคนที่สองของเกาหลีใต้ที่ถูกถอดถอน หลังจากที่อดีตประธานาธิบดี พัก กึน-ฮเย เคยถูกถอดถอนเป็นคนแรกจากปมทุจริตเมื่อปี 2560

ขณะเดียวกัน มีรายงานด้วยว่า ประธานาธิบดียุนปฏิเสธหมายเรียกไปให้ปากคำของเจ้าหน้าที่สอบสวนเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันจันทร์ที่ 23 ธ.ค. ในคดีที่ยุนถูกกล่าวหาว่าก่อกบฏ สืบเนื่องจากการประกาศกฎอัยการศึกของเขา คดีก่อกบฏเป็นคดีอาญาร้ายแรงในเกาหลีใต้ ที่อาจส่งยุนเข้าคุกตลอดชีวิตได้ และมีโทษสูงสุดคือประหารชีวิต โดยเมื่อวันพุธที่แล้ว ยุนได้ปฏิเสธหมายเรียก
ครั้งแรก ทำให้ถูกออกหมายเรียกครั้งที่ 2 แต่เขาก็ปฏิเสธอีกครั้ง

ส่วนหมายเรียกครั้งที่ 3 สั่งให้ยุนไปให้ปากคำในวันที่ 25 ธ.ค. เวลา 10.00 น. เวลาท้องถิ่น ตรงกับวันคริสต์มาสซึ่งเป็นวันหยุดในเกาหลีใต้ หากยุนไปตามหมายเรียก เขาจะเป็นประธานาธิบดีเกาหลีใต้ในตำแหน่งคนแรก ที่จะถูกสอบปากคำโดยหน่วยงานสอบสวนของเกาหลีใต้

ทั้งนี้ การปฏิเสธหมายเรียก 2 ครั้ง อาจทำให้ทางสำนักสอบสวนการทุจริตของเกาหลีใต้ขอให้ศาลออกหมายจับ เพื่อบังคับยุนไปให้ปากคำ ซึ่งหากยุนถูกออก
หมายจับ เขาจะเป็นประธานาธิบดีเกาหลีใต้ในตำแหน่งคนแรก ที่ถูกออกหมายจับขณะยังอยู่ในตำแหน่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเกาหลีใต้