วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์ส) – ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายสาธารณสุขเชื่อ เวลานี้ คณะทำงานถ่ายโอนอำนาจของ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังวางแผนที่จะนำสหรัฐฯ ถอนตัวจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก หรือ WHO นับตั้งแต่วันแรกที่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง
หนังสือพิมพ์ ไฟแนนเชียล ไทมส์ รายงานอ้างผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายสาธารณสุข 2 คนว่า ทีมถ่ายโอนอำนาจประธานาธิบดีของ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังเตรียมการเพื่อนำสหรัฐฯ ถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ตั้งแต่วันแรกที่รัฐบาลชุดใหม่ของทรัมป์เริ่มทำงาน ซึ่งทรัมป์จะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการหลังพิธีสาบาน 20 มกราคมปีหน้า โดย 1 ใน 2 ผู้เชี่ยวชาญที่ถูกอ้างถึง คือ อาชิช จฮา อดีตผู้ประสานงานการรับมือโรคระบาดโควิด-19 ของทำเนียบขาว
อย่างไรก็ตาม ทั้งจฮาและทีมงานของทรัมป์ยังไม่ได้ยืนยันข่าวนี้ แต่หากสหรัฐฯ ถอนตัวจาก WHO จริง จะนับเป็นการเปลี่ยนจุดยืนของสหรัฐฯ ในนโยบายด้านสาธารณสุขโลกครั้งใหญ่ และจะยิ่งทำให้สหรัฐฯ แยกตัวโดดเดี่ยวจากประชาคมโลกในการพยายามสู้กับโรคระบาดระดับโลกมากยิ่งขึ้น รวมทั้งจะเป็นการบ่อนทำลายการเฝ้าระวังโรคระบาดทั่วโลกและระบบการรับมือฉุกเฉินโรคระบาดด้วย
ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ตำหนิติเตียน WHO มายาวนาน โดยเฉพาะในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทรัมป์มองว่าสหรัฐถูกทำให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวจากความพยายามของประชาคมในการต่อสู้กับโรคนี้ และเมื่อเร็วๆ นี้ ได้แต่งตั้งบรรดาคนที่วิพากษ์วิจารณ์ WHO ตัวยงหลายคนให้เข้ารับตำแหน่งสำคัญในกระทรวงสาธารณสุขและบริการสุขภาพของสหรัฐฯ ในรัฐบาลใหม่ของเขา กระทรวงสาธารณสุขฯ ควบคุมหน่วยงานด้านสาธารณสุขที่สำคัญทั้งหมดของสหรัฐฯ รวมถึงองค์การอาหารและยา หรือ FDA และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค หรือ CDC ขณะที่เมื่อครั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยแรก ทรัมป์ได้เคยพยายามถอนสหรัฐฯ ออกจาก WHO มาแล้ว และได้เริ่มกระบวนการถอนตัวที่ใช้เวลานานเป็นปีในปี 2020 แต่อีกเพียง 6 เดือนถัดมา ทรัมป์ต้องลงจากตำแหน่งประธานาธิบดีเสียก่อน หลังพ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้แก่ โจ ไบเดน ซึ่งเมื่อได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไบเดนก็ได้กลับการตัดสินใจของทรัมป์ดังกล่าว
ด้านโฆษกของ WHO ปฏิเสธให้ความเห็นต่อข่าวนี้ แต่อ้างคำพูดของ ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการ WHO ที่กล่าวเมื่อ 10 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า WHO ต้องให้เวลาสหรัฐฯ ในช่วงที่กำลังเปลี่ยนผ่านถ่ายโอนอำนาจ แต่ทีโดรสแสดงความมั่นใจว่า ประเทศต่างๆจะสรุปข้อตลงรับมือโรคระบาดได้ภายในเดือนพฤษภาคมปีหน้า 2025 ขณะที่ ลอว์เรนซ์ กอสติน ศาสตราจารย์ด้านสาธารณสุขประจำศูนย์กฎหมายแห่งมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ ชี้ว่าแผนการถอนตัวของสหรัฐฯ จะเป็น “หายนะ” กับสาธารณสุขทั่วโลก ทำให้องค์การอนามัยโลกเผชิญช่วงเวลายากลำบากในการรับมือกับภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข และอาจนำสู่การตัดลดบุคลากรทางวิทยาศาสตร์ครั้งใหญ่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี